MGR ออนไลน์ - พายุไต้ฝุ่นโคโตะ (Koto) ทวีกำลังแรงขึ้นนอกชายฝั่งภาคกลางของเวียดนาม โดยมีความเร็วลมสูงสุดต่อเนื่องที่ 133 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเช้าวันพฤหัสฯ (27) โดยพยากรณ์อากาศเตือนว่าทิศทางการเคลื่อนตัวของพายุที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทำให้ไม่สามารถคาดการณ์เส้นทางพายุได้ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าพายุอาจพัดถล่มซ้ำพื้นที่ภาคกลางตอนใต้ที่ประสบภัยพิบัติอยู่ก่อนแล้ว
เพียงหนึ่งวันหลังจากพายุไต้ฝุ่นโคโตะก่อตัวขึ้นจากพายุดีเปรสชัน พายุลูกนี้ได้ทวีกำลังแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อเวลา 8.00 น. ของวันพฤหัสฯ (27) ศูนย์กลางของพายุอยู่ห่างจากเกาะเซาท์เวสต์เคย์ ของหมู่เกาะสแปรตลีย์ในทะเลจีนใต้ ไปทางเหนือประมาณ 180 กิโลเมตร โดยพายุกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตก-ตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ศูนย์พยากรณ์อุทก-อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของเวียดนามรายงานว่าเส้นทางการเคลื่อนตัวของพายุจะผันผวนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
เช้าวันศุกร์ (28) คาดว่าพายุโคโตะจะเคลื่อนตัวช้าลงในทิศทางตะวันตก-ตะวันตกเฉียงใต้ ที่ความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ห่างจากเกาะเซาท์เวสต์เคย์ ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ราว 190 กิโลเมตร แต่ยังคงมีกำลังแรงอยู่
ในวันเสาร์ (29) คาดการณ์ว่าพายุจะยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในพื้นที่ด้านตะวันตกของทะเลจีนใต้ตอนกลาง อ่อนกำลังลงเล็กน้อยที่ 103-117 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเคลื่อนไปทางตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ในวันอาทิตย์ (30) คาดว่าพายุจะอ่อนกำลังลงอีก โดยมีลมกระโชกแรงและเคลื่อนตัวช้าๆ ไปทางเหนือ-ตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็ว 3-5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แม้พายุจะอ่อนกำลังลง แต่เจ้าหน้าที่กังวลว่าพายุอาจพัดขึ้นฝั่งภาคกลางตอนใต้ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและดินถล่มร้ายแรงอยู่แล้ว ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 98 ราย และสูญหาย 10 ราย
ขณะเดียวกัน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นรายงานว่าพายุมีความเร็วลมสูงสุดอยู่ที่ 144 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคาดว่าพายุจะยังคงเปลี่ยนทิศทางต่อไปในอีก 2 วันข้างหน้า ในขณะที่ยังคงมีกำลังแรงอยู่ หน่วยงานคาดการณ์ว่าความเร็วลมจะอ่อนลงเหลือ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในวันอาทิตย์ ขณะที่พายุกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้เขตน่านน้ำนอกชายฝั่งจ.ซาลาย ในภาคกลางตอนใต้ของประเทศ
ด้านหอสังเกตการณ์ฮ่องกงคาดการณ์ว่าพายุไต้ฝุ่นอาจมีกำลังแรงที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในวันพฤหัสฯ ก่อนที่จะอ่อนกำลังลงเหลือประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่พายุเคลื่อนตัวไปทางเหนือ
ภายใต้อิทธิพลของพายุโคโตะ รวมถึงน่านน้ำทางตอนเหนือของหมู่เกาะสแปรตลีย์ จะมีความเร็วลม 61-133 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคลื่นสูง 4-9 เมตร ศูนย์พยากรณ์แห่งชาติของเวียดนามเตือนว่าเรือในพื้นที่อันตรายเหล่านี้ อาจมีความเสี่ยงสูงจากลมแรงและคลื่นสูง
เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่ทวีความรุนแรงขึ้น นายกรัฐมนตรีฝ่าม มีง จีง ได้ออกคำสั่งฉุกเฉินเมื่อคืนวันพุธ (26) ที่สั่งให้กระทรวง หน่วยงาน และฝ่ายบริหารระดับจังหวัด เตรียมความพร้อมสูงสุด ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการเชิงรุกตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อปกป้องชีวิตและลดความเสียหายให้น้อยที่สุด ผู้นำเวียดนามย้ำว่ารัฐมนตรีและผู้นำระดับจังหวัดต้องรับผิดชอบต่อความพยายามในการรับมือภัยพิบัติ
พื้นที่ตั้งแต่เมืองดานังไปจนถึงจ.เลิมด่ง ได้รับคำสั่งให้เรือทุกลำเข้าจอดยังท่าเรือที่ปลอดภัยทันที และทบทวนแผนรับมือภัยพิบัติอย่างละเอียดภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
พายุโคโตะ เป็นพายุลูกที่ 15 ในทะเลจีนใต้ในปีนี้ โดยในปี 2568 เป็นปีที่มีพายุและดีเปรสชันเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากเป็นพิเศษในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ภัยพิบัติส่วนใหญ่เกิดจากพายุและน้ำท่วม ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 409 คน บาดเจ็บ 727 คน และความสูญเสียทางเศรษฐกิจมากกว่า 85 ล้านล้านด่ง (ประมาณ 3,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ).


