xs
xsm
sm
md
lg

กัมพูชาปล่อยลูกนกตะกรามเพาะเลี้ยงกลับคืนสู่ธรรมชาติ อีกหนึ่งความสำเร็จอนุรักษ์สัตว์เสี่ยงใกล้สูญพันธุ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - นักอนุรักษ์ในกัมพูชาได้ปล่อยลูกนกตะกราม (Greater Adjutant Stork) 2 ตัว ที่เพาะเลี้ยงในกรงสู่ธรรมชาติเป็นครั้งแรก ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการฟื้นฟูสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ที่ถูกคุกคามจากการลอบล่าสัตว์และการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย

นกตะกรามตัวผู้และตัวเมีย อายุ 9 เดือน ถูกติดตั้งระบบติดตาม GPS ก่อนปล่อยสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเสียมปาง ที่เป็นพื้นที่คุ้มครองภายใต้การดูแลของกลุ่มอนุรักษ์ Rising Phoenix ของกัมพูชา

“สถานที่แห่งนี้สมบูรณ์แบบ เพราะยังมีนกตะกรามตามธรรมชาติอยู่ในพื้นที่” แจ็ค วิลลิส หัวหน้าทีมวิจัยที่ศูนย์อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพอังกอร์ (ACCB) ระบุ

“เราหวังว่าการปล่อยนกตะกรามที่นี่ อาจทำให้พวกมันรวมตัวกันเป็นอาณานิคม พื้นที่นี้ก็ยังได้รับการคุ้มครองอย่างดีจาก Rising Phoenix และกระทรวงสิ่งแวดล้อม” วิลลิส กล่าว

นกตะกรามมีปีกสีดำขนาดใหญ่และคอยาวเป็นเอกลักษณ์ เคยถูกจัดอยู่ในบัญชีแดงของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ว่าเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ปัจจุบันนกตะกรามถูกจัดอยู่ในสถานะสิ่งมีชีวิตที่เกือบจะเสี่ยงต่อการใกล้สูญพันธุ์ หลังจากความพยายามอนุรักษ์มานานหลายทศวรรษช่วยฟื้นฟูประชากรที่ลดลง

ข้อมูลของ ACCB ระบุว่ามีนกตะกรามโตเต็มวัยอาศัยอยู่ตามธรรมชาติทั่วโลกราว 1,500 ตัว โดยเป็นนกตะกรามอยู่ในกัมพูชาราว 200-250 ตัว ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย

วิลลิสกล่าวว่าอนาคตของสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ยังคงไม่แน่นอน

“เหตุการณ์ใหญ่เพียงครั้งเดียวก็อาจทำให้เราสูญเสียสิ่งต่างๆ มากมายในกัมพูชา” วิลลิสกล่าวให้สัมภาษณ์ และเสริมว่าการเพาะเลี้ยงในกรงเป็นสิ่งจำเป้นเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากการสูญพันธุ์

ปัจจุบัน ACCB มีนกตะกรามที่ได้รับการช่วยเหลือ 3 คู่ ที่ศูนย์อนรักษ์ในจ.เสียมราฐ แต่มีเพียงคู่เดียวที่ประสบความสำเร็จในผสมพันธุ์

ศูนย์ระบุว่าไม่ได้คาดหวังว่านกตะกรามที่เพิ่งปล่อยไปจะเข้าร่วมกับประชากรตามธรรมชาติได้ในทันที แต่โดยปกติแล้วนกจะมุ่งหน้าไปยังแหล่งเพาะพันธุ์ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเปรกตวลในช่วงเดือนต.ค. แต่พฤติกรรมการอพยพย้ายถิ่นนี้มักต้องเรียนรู้จากสมาชิกโตเต็มวัยในกลุ่ม

แม้จะมีความพยายามในการปรับสภาพนกให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ แต่วิลลิสกล่าวว่า หากพวกมันรอดชีวิตในธรรมชาติได้ภายใน 3-4 เดือน ถือว่าประสบความสำเร็จ

“สิ่งนี้ช่วยให้เราสามารถพัฒนาระเบียบปฏิบัติสำหรับการอนุรักษ์นกตะกรามและนกกระสาสายพันธุ์อื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน เช่นนกตะกรุม” วิลลิส ระบุ.
















กำลังโหลดความคิดเห็น