MGR ออนไลน์ - ฮุนเซน ประธานพฤฒสภา (สภาสูง) ของกัมพูชากล่าวว่าการปิดด่านพรมแดนฝ่ายเดียวของไทยไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทยเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อการเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียน เอเชียตะวันออก และภูมิภาคเอเชียโดยรวมอีกด้วย
“ทุกการประชุม ไม่ว่าจะเป็นการประชุมระดับนานาชาติหรือระดับอนุภูมิภาค เช่นการประชุมลุ่มน้ำโขง การประชุมของคณะกรรมการต่างๆ กลุ่มประเทศ CLMV อาเซียน เอเชียตะวันออก หรือระดับโลก ล้วนแต่มีการหารือเกี่ยวกับการเชื่อมโยงกันเสมอ แต่ตอนนี้ การเชื่อมต่อได้ขาดหายไป การปิดพรมแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ไม่ใช่แค่การหยุดชะงักระหว่างสองประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อการเชื่อมโยงระหว่างอาเซียน เอเชียตะวันออก และเอเชีย นี่ไม่ใช่การกระทำของกัมพูชา” ฮุนเซน กล่าว
เขายังแสดงความหวังว่าการกลับคืนสู่สันติภาพจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ โดยเน้นย้ำว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายต่างประสบกับความยากลำบาก
“ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เราอยู่ในสถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายเสียประโยชน์ กัมพูชาสูญเสีย ไทยสูญเสีย และประชาชนต้องเผชิญกับความยากลำบาก รวมถึงการหลบหนีและการสูญเสียโอกาสทางการค้า” อดีตผู้นำเขมร กล่าว
แต่อย่างไรก็ตาม ในประเด็นเรื่องการปิดพรมแดนไทย-กัมพูชา ฮุนเซนเน้นย้ำว่าเนื่องจากไทยเป็นฝ่ายปิดพรมแดนฝ่ายเดียว กัมพูชาไม่เคยร้องขอให้เปิดอีก และแม้ว่าไทยจะปิดพรมแดนต่อไปอีกเป็น 100 ปี กัมพูชาก็จะไม่ล่มสลาย โดยฮุนเซนอ้างว่า ในขณะที่ปิดด่าน กัมพูชาจะมีโอกาสในการเสริมสร้างศักยภาพในการจัดหาสินค้าภายในประเทศและหาแหล่งสินค้าอื่นมาทดแทนสินค้าจากไทย.


