รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่เวียดนามรายงานวันนี้ (7) ว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย หลังจากพายุไต้ฝุ่นคัลแมกีพัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งของประเทศ ที่อิทธิพลของพายุทำให้เกิดลมกระโชกแรงและฝนตกหนัก หลังจากพายุพัดผ่านฟิลิปปินส์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 188 ราย
พายุพัดขึ้นฝั่งทางตอนกลางของเวียดนามเมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสฯ (6) ส่งผลให้ต้นไม้หักโค่น บ้านเรือนเสียหาย และทำให้ไฟฟ้าดับ ก่อนที่จะอ่อนกำลังลงขณะเคลื่อนเข้าสู่แผ่นดิน เจ้าหน้าที่เตือนว่าจะยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยปริมาณน้ำฝนอาจสูงถึง 200 มิลลิเมตรในหลายจังหวัดภาคกลางตั้งแต่จ.แท็งฮว้า จนถึงจ.กว๋างจิ และระดับน้ำในแม่น้ำจะเพิ่มสูงตั้งแต่เว้ไปจนถึงดั๊กลัก ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม
ในฟิลิปปินส์ คาดว่าประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ จะเดินทางลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพื่อประเมินความเสียหายและดูแลการฟื้นฟู โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่ามีผู้สูญหาย 135 ราย และบาดเจ็บ 96 ราย
ในเวียดนาม หน่วยงานด้านการจัดการภัยพิบัติระบุว่ามีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย และบ้านเรือนประมาณ 2,800 หลังได้รับความเสียหาย ประชาชนราว 1.3 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้
สำนักข่าวเวียดนามระบุว่าทางรถไฟในจ.กว๋างหงายได้รับความเสียหาย ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอบนโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นหลังคาบ้านถูกลมพัดปลิวหาย บ้านถูกน้ำท่วม และถนนเต็มไปด้วยต้นไม้ล้มและเศษซากปรักหักพัง
รัฐบาลระบุว่าได้ระดมทหารมากกว่า 268,000 นาย ร่วมปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย และเตือนถึงน้ำท่วม ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมในเขตที่ราบสูงตอนกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟหลักของเวียดนาม
คัลแมกีเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 13 ที่ก่อตัวในทะเลจีนใต้ในปีนี้ เวียดนามและฟิลิปปินส์มีความเสี่ยงสูงจากพายุโซนร้อยและพายุไต้ฝุ่น เนื่องจากตั้งอยู่ตามแนวแถบพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก ที่มักเผชิญกับความเสียหายและมีผู้บาดเจ็บล้มตายในช่วงฤดูพายุ
หน่วยงานกำกับดูแลการบินพลเรือนของฟิลิปปินส์ได้เตือนภัยระดับสูงกับศูนย์ปฏิบัติการในพื้นที่และสนามบินทั้งหมดเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับพายุไต้ฝุ่นฟงวอง ที่คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นก่อนพัดขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ในเย็นวันอาทิตย์หรือเช้าตรู่วันจันทร์.


