เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ที่กินเวลานานถึงหนึ่งสัปดาห์และมีปริมาณน้ำฝนมากเป็นประวัติการณ์ในภาคกลางของเวียดนาม เพิ่มขึ้นเป็น 40 รายในวันนี้ (4) ตามการระบุของเจ้าหน้าที่ ขณะที่พายุรุนแรงอีกลูกหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย
พื้นที่ภาคกลางของเวียดนามถูกน้ำท่วมจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจนทำให้ถนนหลายสายกลายเป็นคลอง น้ำในแม่น้ำเอ่อล้น และท่วมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดของประเทศ
ฝนตกหนักถึง 1.7 เมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง ที่ทำลายสถิติของประเทศ
หน่วยงานจัดการภัยพิบัติของกระทรวงสิ่งแวดล้อมระบุว่ามีผู้เสียชีวิตในจ.เว้ จ.ดานัง จ.เลิมด่ง และจ.กว๋างจิ และยังมีผู้สูญหายอีก 6 ราย
ขณะเดียวกันพายุไต้ฝุ่นคัลแมกียังคงพัดกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าพายุลูกนี้จะพัดขึ้นฝั่งในช่วงเช้าตรู่ของวันศุกร์ (7) ตามรายงานของศูนย์พยากรณ์อุทก-อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติเวียดนาม
เวียดนามมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับฝนตกหนักระหว่างเดือนมิ.ย. ถึงเดือนก.ย. แต่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ระบุถึงรูปแบบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ว่าทำให้สภาพอากาศที่เลวร้ายเกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้นและรุนแรงมากยิ่งขึ้น
โดยปกติแล้ว เวียดนามมักเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นหรือพายุโซนร้อนราว 10 ลูก ทั้งโดยตรงหรือบริเวณนอกชายฝั่งในแต่ละปี แต่พายุไต้ฝุ่นคัลแมกีเป็นพายุลูกที่ 13 ของปีนี้
ขณะนี้พายุกำลังพัดถล่มฟิลิปปินส์ ที่คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 2 ราย และทำให้ผู้คนหลายแสนคนต้องพลัดถิ่น
หน่วยงานด้านสภาพอากาศของเวียดนามระบุว่า พายุอาจพัดถล่มชายฝั่งเวีดนามด้วยความเร็วลมสูงถึง 166 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ในวันพฤหัสฯ
อย่างไรก็ตาม พื้นที่ภาคกลางของเวียดนามยังคงได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศเลวร้ายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่บางพื้นที่ห่างไกลยังคงถูกตัดขาดจากดินถล่มที่ปิดกั้นถนน
บ้านเรือนเกือบ 80,000 หลังยังคงถูกน้ำท่วม ตามการรายงานของทางการ ขณะที่พื้นที่เพาะปลูกมากกว่า 10,000 เฮกตาร์ถูกทำลาย และมีวัวควายตายไปมากกว่า 68,000 ตัว.


