xs
xsm
sm
md
lg

ญี่ปุ่นเตือนเวียดนามแผนห้ามใช้มอเตอร์ไซค์ในกรุงฮานอย เสี่ยงกระทบตลาด-การจ้างงานในประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - รัฐบาลญี่ปุ่นและผู้ผลิตชั้นนำของประเทศบางรายได้เตือนเวียดนามว่าแผนการห้ามรถจักรยานยนต์ใช้น้ำมันเบนซินในกรุงฮานอย อาจก่อให้เกิดการเลิกจ้างและส่งผลกระทบต่อตลาดมูลค่า 4,600 ล้านดอลลาร์ ที่บริษัทฮอนด้าครองตลาดอยู่ เอกสารที่รอยเตอร์ได้ตรวจสอบและแหล่งข่าวใกล้ชิด 7 รายระบุ


ในเดือนก.ค. นายกรัฐมนตรีฝ่าม มีง จีง ของเวียดนาม ได้ออกคำสั่งห้ามรถจักรยานยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินเข้าสู่พื้นที่ใจกลางเมืองหลวงตั้งแต่กลางปี 2569 เนื่องจากเวียดนามกำลังพยายามลดมลพิษทางอากาศที่อยู่ในระดับสูง และในปี 2571 จะมีข้อจำกัดเข้มงวดขึ้นและคาดว่าจะขยายไปยังส่วนอื่นๆ ของประเทศ

จากความเคลื่อนไหวดังกล่าว สถานทูตญี่ปุ่นในกรุงฮานอยได้ส่งจดหมายถึงทางการเวียดนามระบุว่า การห้ามอย่างกะทันหันอาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในอุตสาหกรรมสนับสนุน เช่น ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วน ตามคำแถลงจากสถานทูตที่สรุปเนื้อความจดหมาย โดยปฏิเสธที่จะเปิดเผยเนื้อหาทั้งหมด

สถานทูตยังเรียกร้องให้ทางการเวียดนามพิจารณาแผนงานที่เหมาะสมสำหรับกระบวนการเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งรวมถึงระยะเวลาเตรียมการและการบังคับใช้กฎหมายแบบเป็นขั้นตอน

สถานทูตปฏิเสธที่จะระบุว่าจดหมายฉบับดังกล่าวถูกส่งเมื่อใด แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นคนหนึ่งระบุว่ามีการส่งต่อจดหมายในเดือนก.ย.

ตลาดรถ 2 ล้อของเวียดนามเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าราว 4,600 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ ตามข้อมูลของบริษัทวิจัยตลาด Mordor Intelligence โดยจำนวนรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนในปีที่แล้วคิดเป็นเกือบ 80% ของประชากร 100 ล้านคนของประเทศ หนึ่งในอัตราการเป็นเจ้าของที่สูงสุดที่ในโลก

กลุ่มการค้าหลักของผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ต่างชาติในเวียดนาม ที่นำโดยฮอนด้า และรวมถึงยามาฮ่าและซูซูกิ ได้ส่งจดหมายถึงรัฐบาลในเดือนก.ค. เตือนว่าคำสั่งห้ามนี้อาจส่งผลให้การผลิตหยุดชะงักและเสี่ยงต่อการล้มละลายสำหรับบริษัทในห่วงโซ่อุปทาน สำเนาจดหมายที่รอยเตอร์ได้ตรวจสอบระบุ

ผู้ผลิตระบุว่าคำสั่งห้ามอาจส่งผลกระทบต่อคนงานหลายแสนคน และอ้างถึงการหยุดชะงักที่อาจเกิดขึ้นกับตัวแทนจำหน่ายเกือบ 2,000 ราย และซัปพลายเออร์ชิ้นส่วนประมาณ 200 ราย

พวกเขาเรียกร้องให้มีการดำเนินการตามช่วงการเปลี่ยนผ่าน โดยมีระยะเวลาเตรียมการขั้นต่ำ 2-3 ปี เพื่อให้มีเวลาในการปรับสายการผลิต ขณะที่เครือข่ายสถานีชาร์จและมาตรฐานความปลอดภัยขยายตัว

จนถึงตอนนี้เจ้าหน้าที่เวียดนามปฏิเสธที่จะดำเนินการตามคำร้องขอของรัฐบาลญี่ปุ่นและผู้ผลิต ตามข้อมูลจากบุคคลที่ 3 ที่ทราบเกี่ยวกับการหารือ ซึ่งบุคคลเหล่านี้ เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ ต่างปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อเนื่องจากประเด็นมีความละเอียดอ่อน

รัฐบาลเวียดนามไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นจากรอยเตอร์

รัฐบาลเวียดนามกล่าวว่าคำสั่งห้ามนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในกรุงฮานอย ส่วนทางการในนครโฮจิมินห์ เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ ก็ได้ส่งสัญญาณถึงแผนการจำกัดการใช้รถที่ใช้น้ำมันเช่นกัน


นายกรัฐมนตรีฝ่าม มีง จีง กล่าวกับผู้บริหารของญี่ปุ่นในเดือนส.ค. ว่าการลดการปล่อยมลพิษเป็นปัญหาระดับโลกที่ต้องอาศัยความร่วมมือในการเลือกวิธีแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมที่สุดพร้อมกับแผนงานที่เหมาะสม

ฮอนด้าที่ครองตลาดรถ 2 ล้อในเวียดนามถึง 80% ด้วยยอดขาย 2.6 ล้านคันในปีที่ผ่านมา ได้เรียกร้องให้ทางการทบทวนคำสั่งดังกล่าว ตามการระบุของแหล่งข่าว 3 ราย ซึ่งทั้งหมดได้เข้าร่วมหรือรับฟังการสรุปเกี่ยวกับการประชุมกับรัฐบาลเวียดนามและเจ้าหน้าที่อื่นๆ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ในการหารือส่วนตัว ตัวแทนของฮอนด้ารายหนึ่งได้กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่บริษัทอาจพิจารณาลดกำลังการผลิตในเวียดนามในการตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวนี้

ฮอนด้าระบุว่ากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ไม่มีแผนที่จะปิดโรงงาน

ผู้ผลิตญี่ปุ่นรายนี้มีโรงงานในเวียดนาม 4 แห่ง ที่ครองตลาดจนชื่อแบรนด์กลายเป็นคำย่อของรถจักรยานยนต์ในภาษาเวียดนาม

รถจักรยานยนต์เกือบทั้งหมดที่ฮอนด้าจำหน่ายในเวียดนามและที่อื่นๆ ใช้พลังงานจากน้ำมันเบนซิน แต่ฮอนด้ายังมีรุ่น CUV e: และรุ่น ICON e: ที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่ในประเทศด้วย

ยอดขายของฮอนด้าในเวียดนามลดลงเกือบ 22% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่มีการประกาศใช้มาตรการห้าม ก่อนฟื้นตัวเล็กน้อยในเดือนก.ย. บริษัทมียอดขายลดลง 2 หลักเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในเดือนส.ค. และเดือนก.ย.

ธุรกิจยานยนต์ของฮอนด้าถูกกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรง เนื่องจากการเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าทั่วโลก บริษัทจึงหันมาพึ่งพาธุรกิจรถจักรยานยนต์มากขึ้นให้เป็นตัวขับเคลื่อนผลกำไร

ในขณะเดียวกัน ยอดขายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและจักรยานไฟฟ้าของบริษัทวินฟาสต์ เพิ่มขึ้น 55% เป็นเกือบ 70,000 คันในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก

มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมยังส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน ซึ่งลดลง 18% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สำหรับสมาชิกของสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ของเวียดนาม (VAMA) ที่รวมถึงแบรนด์ญี่ปุ่นหลายราย

เมื่อเดือนที่ผ่านมา VAMA ระบุว่าไม่คาดว่าจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการห้ามรถจักรยานยนต์ แต่ยอมรับว่าลูกค้าบางส่วนลังเลที่จะซื้อรถยนต์ใหม่ หลังการประกาศของรัฐบาล

ส่วนโตโยต้า ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น เป็นผู้นำตลาดด้วยยอดขายรถยนต์มากกว่า 1 ใน 4 ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในเดือนก.ย. ตามข้อมูลของ VAMA.




กำลังโหลดความคิดเห็น