MGR ออนไลน์ - กัมพูชาย้ำจุดยืนเดิมว่า ‘ไม่ได้ครอบครองและไม่ได้วางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลใหม่’ พร้อมกล่าวหาว่าไทยพยายามโน้มน้าวสื่อทั่วโลกว่าทุ่นระเบิดที่เพิ่งค้นพบในพื้นที่พิพาทชายแดนที่เต็มไปด้วยทุ่นระเบิดตั้งแต่อดีตนั้นเป็นทุ่นระเบิดที่เพิ่งวางใหม่
ลี ธุช รองประธานคนที่ 1 ของหน่วยงานปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา (CMAA) ได้แสดงจุดยืนของกัมพูชาดังกล่าวในการประชุมคณะทำงานด้านเทคนิคในปฏิบัติการทุ่นระเบิด (TWG-MA) ของรัฐบาลและหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา โดยเขาได้แสดงความเสียใจต่อเหตุตึงเครียดตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย และปฏิเสธข้อกล่าวหาต่อกัมพูชาเกี่ยวกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยระบุว่าไม่มีมูลความจริง
“กัมพูชายึดมั่นอย่างเต็มที่ต่อหลักการด้านมนุษยธรรมตามอนุสัญญาออตตาวาและในการกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภายในเขตอธิปไตยของกัมพูชา” ลี ธุช กล่าว
CMAA ระบุว่าตั้งแต่ปี 2535 กัมพูชาได้กวาดล้างพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดมากกว่า 3,400 ตารางกิโลเมตร โดยค้นพบและทำลายทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดมากกว่า 4.4 ล้านลูก และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ความพยายามเหล่านี้ได้ลดจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บลงเหลือน้อยกว่า 100 รายต่อปี
เขาระบุว่าโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติและภาคีต่างๆ ได้มีส่วนร่วมในการกวาดล้างทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดผ่านโครงการกวาดล้างทุ่นระเบิดเพื่อผลลัพภ์ โดยสามารถกวาดล้างพื้นที่ปนเปื้อนได้ 418 ตารางกิโลเมตร คิดเป็น 16% ของพื้นที่ที่ถูกกวาดล้างทุ่นระเบิด ที่ก่อให้เกิประโยชน์ต่อผู้คน 1.3 ล้านคน
ลี ธุช ระบุว่าในขณะที่มีความคืบหน้าดังกล่าวแต่ทางการไทยยังคงพยายามกล่าวโทษกัมพูชาจากทุ่นระเบิดที่พวกเขาเพิ่งค้นพบใกล้กับบริเวณที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นพรมแดนที่มีทุ่นระเบิดอยู่หนาแน่นที่สุดในโลก
ลี ธุช ระบุว่าเมื่อวันที่ 16 ต.ค. สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานว่าทางการไทยอนุญาตให้พวกเขาชมคลิปวิดีโอและภาพถ่ายของทุ่นระเบิด และอ้างคำพูดของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศที่อ้างว่าทหารไทยที่ได้รับบาดเจ็บนั้นเป็นเหยื่อของทุ่นระเบิด PMN-2 ที่เพิ่งวางใหม่
สำนักข่าวรอยเตอร์ยังได้นำเสนอภาพถ่ายดังกล่าวต่อนักวิเคราะห์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่สนับสนุนคำกล่าวอ้างของทางการไทยที่ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้ดูเหมือนถูกวางเมื่อไม่นานนี้
เขาระบุว่าทางการกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาของไทยเกี่ยวกับการวางทุ่นระเบิดใหม่ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ครั้งแรกในเดือนก.ค. ที่นำไปสู่การปะทะด้วยอาวุธ.