รอยเตอร์/เอเอฟพี - เกาหลีใต้ออกคำสั่งห้ามเดินทางระดับสูงสุดในบางพื้นที่ของกัมพูชาวันนี้ (15) และส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงช่วยเหลือพลเมืองที่ถูกลวงให้ทำงานในศูนย์หลอกลวงออนไลน์และปล่อยตัวคนที่ถูกควบคุมตัวโดยไม่สมัครใจ
วี ซอง-ลัค ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ กล่าวว่ารัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศกำลังนำคณะเดินทางเข้ากัมพูชา เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชาวเกาหลีใต้ในอุตสหากรรมหลอกลวงที่ซับซ้อน
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้ออกคำสั่งห้ามเดินทางสำหรับบางพื้นที่ของกัมพูชา ที่รวมถึงเมืองปอยเปต และเมืองกำปอต และคำแนะนำให้เดินทางออกจากพื้นที่ต่างๆ ที่รวมถึงเมืองสีหนุวิลล์ โดยอ้างถึงการเพิ่มขึ้นของกรณีการกักขังและการจ้างงานฉ้อโกง โดยคำสั่งห้าม ‘รหัสดำ’ ถือเป็นคำสั่งห้ามการเดินทางระดับสูงสุด ที่สั่งให้พลเมืองออกจากพื้นที่ดังกล่าว
“พื้นที่ภูเขาโบกอร์ใน จ.กำปอต เมืองบาเวต และเมืองปอยเปต ถูกกำหนดให้เป็นเขตห้ามเดินทาง ชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางเข้าหรือพำนักอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวอาจถูกลงโทษ ขอแนะนำให้พลเมืองที่วางแผนที่จะเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวยกเลิกการเดินทาง” คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศระบุ
วี ซอง-ลัค กล่าวกับนักข่าวว่า เชื่อว่ามีชาวเกาหลีใต้มากกว่า 1,000 คน อยู่ในกลุ่มคนราว 200,000 คน จากหลายเชื้อชาติเกี่ยวข้องในศูนย์หลอกลวงออนไลน์ในกัมพูชา
สหประชาชาติประเมินว่าศูนย์หลอกลวงเหล่านี้ที่ปรากฎขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 สร้างรายได้หลายพันล้านดอลลาร์ให้กับเครือข่ายอาชญากรทุกปี ที่มุ่งเป้าหลอกลวงเหยื่อทั่วโลกผ่านการหลอกลวงทางโทรศัพท์และทางออนไลน์
การดำเนินมาตรการของเกาหลีใต้เหล่านี้เกิดขึ้นหลังการเสียชีวิตของนักศึกษาชาวเกาหลีใต้คนหนึ่ง ที่ถูกหลอกให้ไปทำงานในศูนย์หลอกลวงในกัมพูชาโดยให้สัญญาว่าจะให้ค่าจ้างสูง เขาเสียชีวิตหลังจากถูกแก๊งอาชญากรทรมาน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกาหลีใต้ได้เรียกเอกอัครราชทูตกัมพูชาเข้าพบเพื่อสอบถามเกี่ยวกับการเสียชีวิตดังกล่าว รวมถึงการควบคุมตัวพลเมืองของประเทศโดยแก๊งอาชญากรรมไซเบอร์ และเรียกร้องให้พนมเปญดำเนินการ
ในเดือนมิ.ย. องค์การนิรโทษกรรมสากลกล่าวหาว่ารัฐบาลกัมพูชาจงใจเพิกเฉยต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกลุ่มอาชญากร และรูปแบบความล้มเหลวของรัฐที่ทำให้อุตสหากรรมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์นี้เฟื่องฟู
รัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการเพิกเฉยและระบุว่ารายงานของกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวเกินจริง
วี ซอง-ลัค ระบุว่าตำรวจเกาหลีใต้และกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการกับรายงานมากกว่า 300 ฉบับที่ยื่นโดยญาติของพลเมืองที่เชื่อว่าสูญหายในกัมพูชาในปีนี้ และคดีเหล่านี้ได้รับการแก้ไขแล้วประมาณ 80%
รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังทำงานกับคดี 72 คดี และวางแผนที่จะนำตัวผู้ที่ถูกทางการกัมพูชาควบคุมตัวไว้ตั้งแต่เดือนก.ค. ประมาณ 60 คนกลับประเทศ และเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนสูญหายหรือถูกควบคุมตัวโดยไม่สมัครใจ
วี ซอง-ลัค ระบุว่ารัฐบาลเกาหลีใต้เผชิญกับข้อจำกัด เนื่องจากกัมพูชามีสิทธิที่จะดำเนินการกับอาชญากรรมในประเทศ และแนวทางในการดำเนินการที่ดีที่สุดสำหรับเกาหลีใต้คือการช่วยเหลือและความร่วมมือ.