MGR ออนไลน์ - ฮุนเซน รักษาการประมุขแห่งรัฐและประธานพฤฒสภา (สภาสูง) ของกัมพูชา ได้เรียกร้องให้ชาวกัมพูชาเพิ่มการใช้เงินเรียลในการทำธุรกรรมประจำวัน และเตือนว่าการพึ่งพาเงินบาทของไทยก่อให้เกิดความเสี่ยงทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง
ฮุนเซนได้แสดงความคิดเห็นดังกล่าวหลังจากได้รับรายงานว่า ประชาชนในปอยเปต จ.บ้านใต้ชัย (บันเตียเมียนเจย) เริ่มแลกเปลี่ยนเงินบาทเป็นเงินเรียล เพียง 2 ชั่วโมง หลังจากเขาโพสต์ข้อความเรียกร้องในวันพุธ (8) ซึ่งเขายังกล่าวชื่นชมกับการตอบสนองอย่างรวดเร็วของประชาชน และว่าการใช้สกุลเงินของชาติในกัมพูชามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันความสูญเสียทางการเงินและการปกป้องประเทศจากความเปราะบางทางเศรษฐกิจจากผลกระทบภายนอก
“เป็นเรื่องดีที่ประชาชนชาวกัมพูชาใช้เงินเรียลในประเทศของตนเอง ช่วยหลีกเลี่ยงการสูญเสียทางการเงิน และป้องกันไม่ให้เงินเรียลกลายเป็นความเปราะบางของชาติเมื่อเงินตราต่างประเทศถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง” ฮุนเซน กล่าว
อดีตผู้นำกัมพูชายังอ้างว่ามีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นในหมู่ชาวเขมรที่ทำงานในไทย และอ้างว่าบางคนไม่สามารถถอนเงินจากธนาคารไทยได้
“สถานการณ์นี้เผยให้เห็นว่าเงินบาทไทยกำลังสร้างความเสียหายต่อชาวกัมพูชาที่ทำงานและอาศัยอยู่ในไทย ในอนาคต เงินบาทจะส่งผลกระทบต่อชาวเขมรในกัมพูชาเช่นกัน ถ้าพวกเขายังคงใช้จ่ายและออมเงินด้วยเงินบาท” ฮุนเซน อ้าง
เขาเรียกร้องให้ผู้ประกอบการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศดำเนินการซื้อขายตามอัตราตลาด หลีกเลี่ยงการแสวงหาผลกำไรจากความผันผวน ที่อาจบิดเบือนค่าเงินเรียลและส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป นอกจากนี้เขายังเรียกร้องให้ธุรกิจต่างๆ และบุคคลทั่วไปหยุดอ้างค่าแรง ราคาสินค้า และค่าบริการเป็นเงินบาท พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทำธุรกรรมด้วยเงินเรียล หรือหากจำเป็น ก็ให้ใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ
“หากคุณรักประเทศชาติอย่างแท้จริง ก็ควรเก็บธนบัตรที่มีพระบรมสาทิสลักษณ์ของกษัตริย์กัมพูชา พระราชบิดา และพระราชมารดาไว้ในกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าเสื้อ หรือกระเป๋าถือของคุณ แทนการเก็บธนบัตรของกษัตริย์ต่างชาติที่มองเราเป็นศัตรูและดูหมิ่นเรา” ฮุนเซน กล่าว
ฮุนเซนยังเรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดยิ่งขึ้นต่อการลักลอบนำเข้าสินค้าไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ด่านยังปิด โดยให้เหตุผลว่าการกระทำดังกล่าวทำให้การพึ่งพาตนเองของชาติอ่อนแอลง และทำให้ประเทศเพื่อนบ้านดูถูกกัมพูชา
แม้จะยังไม่มีการประกาศมาตรการทางกฎหมายในทันที แต่ข้อความของฮุนเซนแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนอธิปไตยทางการเงินที่เข้มแข็งขึ้น และลดการพึ่งพาเงินบาทของไทย ประเด็นปัญหาที่มีผลกระทบโดยตรงต่อการค้าข้ามพรมแดน เสถียรภาพด้านราคา และความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ สมาคมธนาคารในกัมพูชาได้แสดงการสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการเรียกร้องของฮุนเซนที่ให้เพิ่มการใช้เงินเรียลในการทำธุรกรรมประจำวัน และเน้นย้ำว่าการพึ่งพาสกุลเงินประจำชาติมากขึ้นนั้น จะนำมาซึ่งประโยชน์ทางเศรษฐกิจ การเงิน และการเมือง
สก ชาน โฆษกของสมาคมธนาคารในกัมพูชาเชื่อว่าการใช้เงินเรียลมีประโยชน์มากมายต่อเศรษฐกิจของกัมพูชา และส่งเสริมความเป็นเจ้าของชาติในระบบการเงินของประเทศ
เขาอธิบายว่าเศรษฐกิจของกัมพูชายังคงพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างมาก ซึ่งสกุลเงินต่างประเทศโดยเฉพาะดอลลาร์สหรัฐนั้นมีสัดส่วนมากกว่า 85% ของเงินหมุนเวียน ขณะที่เงินเรียลมีสัดส่วนเพียง 12%-15% เท่านั้น การลดความไม่สมดุลนี้จะทำให้ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) มีเครื่องมือนโยบายทางการเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ความสามารถในการปรับอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกันก็สร้างรายได้เพิ่มเติมจากการออกธนบัตรเงินเรียล
สก ชาน เน้นย้ำถึงมาตรการที่มีอยู่แล้วเพื่อสนับสนุนการใช้เงินเรีบลตามพื้นที่ชายแดน โดยปัจจุบันธนาคารและสถาบันการเงินที่ดำเนินการอยู่ตามพื้นที่ชายแดนติดกับไทยให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศระหว่างเงินบาท เงินเรียล และเงินดอลลารสหรัฐ เป็นประจำ ทำให้ผู้ค้าและประชาชนในท้องถิ่นสามารถทำธุรกรรมได้อย่างราบรื่น
“สถาบันการเงินที่ให้บริการตามแนวชายแดนรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจากเงินบาทเป็นเงินเรียล หรือจากเงินบาทเป็นเงินดอลลาร์อยู่เป็นประจำ พวกเขาอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมสำหรับผู้ค้าและประชาชน และอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงตามอัตราอย่างเป็นทางการของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา” สก ชาน กล่าว
เขาเสริมว่าแม้ว่าการชำระเงินดิจิทัลด้วยเงินบาทไทยยังคงได้รับการยอมรับในบางพื้นที่ แต่ภาคธนาคารมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลในการสนับสนุนการใช้เงินเรียลให้กว้างขวางขึ้น
ด้านธนาคารแห่งชาติกัมพูชาได้ออกคำแถลงหลังจากฮุนเซนเรียกร้องให้ชาวกัมพูชาพึ่งพาเงินเรียลมากขึ้นเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษกิจและลดการพึ่งพาสกุลเงินต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดชายแดนที่มีการใช้เงินบาทอย่างแพร่หลาย
ก่อนหน้านี้ ในเดือนก.ค. ธนาคารแห่งชาติได้ออกคำสั่งอย่างเป็นทางการให้สถาบันการเงินและธนาคารทุกแห่ง รวมถึงผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ได้รับอนุญาต ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินบาทในอัตราตลาด เพื่อช่วยเหลือพลเมืองกัมพูชาที่เดินทางกลับจากไทย
คำสั่งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การหลั่งไหลเดินทางกลับประเทศอย่างต่อเนื่องของแรงงานข้ามชาติชาวกัมพูชา
ธนาคารแห่งชาติยังเรียกร้องให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมมือกันในการดำเนินการแลกเปลี่ยนเงินบาทเป็นเงินเรียลในลักษณะที่สะท้อนหลักการตลาดและส่งเสริมความสามัคคีของชาติ
“ธนาคารแห่งชาติกัมพูชาเรียกร้องให้สถาบันการเงินและธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง รวมถึงบริษัทแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ร่วมมือกันแลกเงินบาทไทยเป็นเงินเรียลกัมพูชาตามอัตราตลาด ตามเจตนารมย์ของความสามัคคีและการสนับสนุนซึ่งกันและกันในสถานการณ์เช่นนี้” คำแถลงของธนาคารแห่งชาติ ระบุ
คำแถลงระบุว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยบรรเทาภาระทางการเงินของแรงงานที่เดินทางกลับประเทศ โดยรับรองการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เป็นธรรมและโปร่งใส ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนที่เปลี่ยนแปลง.