MGR ออนไลน์ - นักวิเคราะห์ขาประจำกัมพูชา แสดงความคิดเห็นต่อการกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสหประชาชาติของ สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของไทย เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ว่ารัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ของไทยเลือกที่จะยั่วยุมากกว่าสันติภาพ แทนที่จะใช้เวทีระดับโลกแสดงความเป็นผู้นำและความรับผิดชอบ กลับใช้กล่าวหากัมพูชา บิดเบือนข้อเท็จจริงทั้งในพื้นฐานความเป็นจริงและในทางประวัติศาสตร์ระหว่างสองประเทศ ซึ่งกัมพูชาไม่อาจและจะไม่ปล่อยให้ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่ได้รับคำตอบ
โรธ สันติเพียบ นักวิเคราะห์ชาวกัมพูชาซึ่งแสดงความเห็นกล่าวหาไทยในประเด็นต่างๆ อยู่เป็นประจำ ระบุว่าถ้อยแถลงของสีหศักดิ์นั้นดูโดดเด่นแต่ไม่ใช่เพราะเนื้อหาสาระ แต่เป็นเพราะการเยาะเย้ยถากถาง ที่กล่าวหากัมพูชาว่าทำให้ข้อพิพาทชายแดนทวีความรุนแรงขึ้น ยิงถล่มหมู่บ้าน ส่งโดรนเข้าไปในดินแดนไทย ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่มีหลักฐาน และในความเป็นจริงแล้ว กองทัพไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่ในดินแดนกัมพูชาโดยไม่มีการยั่วยุ และล่าสุดคือเหตุการณ์ที่หมู่บ้านอานเซส เมื่อวันที่ 27 ก.ย.
ในบทความที่เผยแพร่บนเว็บไซต์พนมเปญโพสต์ โรธ สันติเพียบ ระบุว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ชั่วโมงของการรุกรานของไทย กองกำลังกัมพูชาไม่ได้ตอบโต้กลับ และยังคงยึดมั่นในหลักการของความอดทนอดกลั้นสูงสุด เคารพในข้อตกลงหยุดยิงที่ตกลงกันไว้เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ณ เมืองปุตราจายา ที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย และจีน
นักวิเคราะห์รายนี้ยังกล่าวอ้างว่ากัมพูชาไม่เคยพยายามทำให้ประเด็นชายแดนเป็นเรื่องสากล ไทยเป็นประเทศแรกที่เพิ่มกำลังทหารที่ชายแดน เข้ายึดครองพื้นที่ที่เป็นของกัมพูชา และปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามแผนที่แสดงเส้นแบ่งเขตที่ได้รับการรับรองในระดับสากลที่มอบให้กับสหประชาชาติตั้งแต่ปี 2507 เจ้าหน้าที่ไทยได้เปลี่ยนเรื่องราวซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากปฏิบัติการป้องกัน เป็นการป้องกันดินแดน และเป็นความกังวลด้านมนุษยธรรม ที่ในขณะเดียวกันก็ยังรุกล้ำดินแดนกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง
โรธ สันติเพียบ ระบุว่ารัฐมนตรีต่างประเทศของไทยกล่าวว่าทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิด แต่กลับลืมกล่าวว่าทุ่นระเบิดส่วนใหญ่ถูกวางไว้ในช่วงหลายทศวรรษของสงครามในกัมพูชา สงครามที่ถูกแทรกแซงจากภายนอกที่ไทยมีส่วน ปัจจุบันกัมพูชามีความก้าวหน้าอย่างมากในการกำจัดทุ่นระเบิด ช่วยชีวิตผู้คนไว้มากมาย การที่ผู้นำไทยใช้โศกนาฎกรรมเหล่านี้เป็นเครื่องมือทางการเมืองที่สหประชาชาติถือว่าไม่มีความเห็นอกเห็นใจและไม่ซื่อสัตย์
นอกจากนี้ เขายังกล่าวหาสีหศักดิ์ที่อ้างถึงหลักการอาเซียนว่าไม่มีความจริงใจ โดยระบุว่าการเคารพอาเซียนอย่างแท้จริงหมายถึงการเคารพข้อตกลง การละเว้นจากการกระทำฝ่ายเดียว การหาทางแก้ไขอย่างสันติผ่านการเจรจา แต่ไทยกลับร่างแผนที่ขึ้นฝ่ายเดียว เพิกเฉยต่อคณะกรรมาธิการชายแดนร่วม และปลุกปั่นความตึงเครียดด้วยวาทกรรมไร้เหตุผล เขากล่าวว่าหากไทยเห็นคุณค่าของเอกภาพอาเซียนอย่างแท้จริง ก็ต้องเริ่มด้วยการเคารพอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน
โรธ สันติเพียบ ยังอ้างอีกว่าประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าใครสร้างใครขึ้นใหม่ กัมพูชาที่เต็มไปด้วยบาดแผลจากความขัดแย้งหลายทศวรรษ ได้ฟื้นฟูตนเองขึ้นมาจากความสามารถในการปรับตัวของประชาชนและการสนับสนุนจากมิตรแท้ในประชาคมระหว่างประเทศ เขาระบุว่าคำกล่าวของไทยที่ว่าได้ช่วยสร้างกัมพูชาขึ้นใหม่หลังจากข้อตกลงสันติภาพปารีส ถือเป็นการดูหมิ่นชาวกัมพูชาที่เสียสละและทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อฟื้นฟูประเทศ
โรธระบุว่า คำกล่าวที่ว่า “หมู่บ้านที่เพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาของผมอ้างถึงนั้นอยู่ในดินแดนของไทย” เป็นคำประกาศที่บั่นทอนการทูตอย่างจริงจัง พรมแดนไม่ได้กำหนดขึ้นจากการกล่าวสุนทรพจน์ที่สหประชาชาติ แต่กำหนดขึ้นโดยสนธิสัญญา กฎหมายระหว่างประเทศ และศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กัมพูชายอมรับหลักการเหล่านี้ และเขาได้ตั้งคำถามกลับว่าไทยยอมรับหลักการเหล่านี้หรือไม่
เขาย้ำว่ากัมพูชายังคงยึดมั่นในสันติภาพ ยึดมั่นในการเจรจา กลไกอาเซียน และกฎหมายระหว่างประเทศ แต่ขณะเดียวกันกัมพูชาจะปกป้องดินแดนทุกตารางนิ้ว และจะเปิดโปงทุกความพยายามในการบิดเบือนความจริง
นักวิเคราะห์ชาวเขมรผู้นี้ทิ้งท้ายว่าหากไทยต้องการแสวงหาสันติภาพอย่างแท้จริง ควรเริ่มต้นด้วยการยุติการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ เคารพแผนที่ที่มีอยู่ และกลับสู่โต๊ะเจรจาด้วยความจริงใจ ถ้อยคำว่างเปล่าที่สหประชาชาติจะไม่ลบการรุกรานในพื้นที่ได้ กัมพูชาเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศมองทะลุการบิดเบือนเหล่านี้ และสนับสนุนการแก้ไขข้อพิพาทด้วยกฎเกณฑ์และด้วยความยุติธรรม.