MGR Online - ลาวเดินหน้ากวาดล้างขบวนการทุจริตโครงการผลิตไฟฟ้า ล่าสุด จับกุมอดีต ผู้อำนวยการใหญ่ ไฟฟ้าลาว ข้อหาฉ้อโกงการสร้างสายส่งแรงสูง หลังก่อนหน้านี้ได้จับกุมอดีตรองผู้อำนวยการใหญ่ พร้อมพวกอีก 3 คน ที่เอื้อผู้รับเหมาสร้างเขื่อน
วานนี้ (16 ก.ย.) "วาละสานกวดกา" สื่อทางการขององค์การตรวจตราแห่งรัฐ ได้เผยแพร่ข่าวการจับกุมอดีตผู้อำนวยการใหญ่ รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) และอดีตหัวหน้าสำนักงานศึกษา สำรวจ ออกแบบสายส่งและสถานี ในข้อหาฉ้อราษฎร์บังหลวง
ในเนื้อข่าวไม่บอกชื่อของผู้ที่ถูกจับกุมทั้ง 2 คน แต่ได้ให้รายละเอียดว่า เหตุจับกุมดังกล่าว เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 หลังจากองค์การตรวจตราแห่งรัฐและองค์การต่อต้านการฉ้อราษฎร์บังหลวง ขั้นศูนย์กลาง พบเบาะแสว่ามีการทุจริตในโครงการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าขนาด 230 กิโลโวล์ต ช่วงระหว่างเมืองท่าเวียงถึงหลัก 20 และโครงการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าขนาด 115 กิโลโวลต์ ช่วงจากเมืองน้ำไผ่ถึงเมืองทุ่งคูน
หลังจากมีการสืบสวนสอบสวน พบว่ามีผู้บริหารระดับสูงและพนักงานของรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาวจำนวนหนึ่ง มีพฤติกรรมฉ้อราษฎร์บังหลวงและฉวยใช้อำนาจหน้าที่เพื่อหาผลประโยชน์จากทั้ง 2 โครงการนี้ สร้างความเสียหายแก่รัฐเป็นจำนวนมาก จึงได้จับกุมอดีตผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาวทั้ง 2 คนดังกล่าว
องค์การตรวจตราแห่งรัฐและองค์การต่อต้านการฉ้อราษฎร์บังหลวง เป็นหน่วยงานของรัฐระดับศูนย์กลางที่ขึ้นตรงกับประธานประเทศ มีบทบาทและหน้าที่ในการต่อต้านการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐในลาว
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 องค์การตรวจตราแห่งรัฐได้จับกุมอดีตผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว 4 คน และผู้รับเหมาเอกชนที่เป็นชาวต่างชาติอีก 1 ราย ในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์สินของรัฐ และฉ้อราษฎร์บังหลวง ในโครงการก่อสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าน้ำหินบูน ที่เมืองคูนคำ แขวงคำม่วน
ตามรายงานระบุว่าผู้ถูกจับกุมทั้ง 5 คน เป็นอดีตรองผู้อำนวยการรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว 1 คน อดีตหัวหน้าฝ่ายก่อสร้างเขื่อน 1 คน อีก 2 คน เป็นอดีตหัวหน้าและรองหัวหน้าโครงการก่อสร้างเขื่อน ส่วนชาวต่างชาติเป็นประธานบริษัทเอกชน
เขื่อนผลิตไฟฟ้าน้ำหินบูน เป็นโครงการของรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว สร้างกั้นแม่น้ำหินบูน ที่เมืองคูนคำ แขวงคำม่วน มีกำลังการผลิตติดตั้ง 30 เมกะวัตต์ โดยรับน้ำที่ปล่อยลงมาจากเขื่อนผลิตไฟฟ้าเทิน-หินบูนที่อยู่ด้านบน เพื่อนำมาใช้ในการปั่นไฟ
หากสร้างเสร็จ เขื่อนผลิตไฟฟ้าน้ำหินบูนจะจ่ายไฟฟ้าให้กับเมืองต่างๆบริเวณภาคกลางของลาว ด้วยปริมาณไฟฟ้า 155 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ผ่านสายส่งไฟฟ้าขนาด 155 กิโลโวลต์ที่เชื่อมไปยังสถานีไฟฟ้าบ้านคอนสง เมืองปากกะดิง แขวงบ่อลิคำไซ
โครงการเขื่อนผลิตไฟฟ้าน้ำหินบูนเป็นโครงการแบบเหมา หรือ EPC (Engineering , Procurement and Construction) ซึ่งผู้รับเหมารับผิดชอบตั้งแต่การออกแบบ จัดหา ก่อสร้างโครงการ และส่งมอบโครงการที่เสร็จสมบูรณ์แล้วให้กับผู้ว่าจ้าง
โครงการนี้ใช้เงินกู้จากธนาคารกรุงไทย มูลค่าการก่อสร้างรวม 89,970,000 ดอลลาร์สหรัฐ ตามสัญญาต้องเริ่มต้นการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2556 ใช้เวลาสร้าง 3 ปี กำหนดแล้วเสร็จส่งมอบโครงการต่อให้รัฐได้ในปี 2559 แต่ในความเป็นจริงไม่สามารถทำได้ตามกำหนด เจ้าของโครงการได้ยืดเวลาแก่ผู้รับเหมาออกไปอีก 3 ปี แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างได้เสร็จเช่นเดิม
จากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ โครงการเขื่อนผลิตไฟฟ้าน้ำหินบูนสร้างไปได้เพียง 76% ของเนื้องานทั้งหมด แต่เจ้าของโครงการได้เบิกจ่ายเงินให้บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างไปแล้วเป็นเงิน 88,750,341.33 ดอลลาร์ หรือ 98.64% ของมูลค่ารวมทั้งโครงการ ทำให้รัฐบาลลาวสูญเสียผลประโยชน์ ขาดรายรับจากการผลิตและขายไฟฟ้าจำนวนมหาศาล อีกทั้งรัฐบาลยังต้องรับภาระหนี้สิน ใช้คืนเงินต้นและดอกเบี้ยแก่ธนาคารพาณิชย์ผู้ให้กู้ตามสัญญา คณะกรรมการตรวจตราแห่งรัฐจึงเริ่มการสืบสวนสอบสวนเชิงลึก และพบการทุจริตจนนำมาซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย