MGR ออนไลน์ - นักข่าวออนไลน์ 2 คน ในกัมพูชาถูกตั้งข้อหากบฎหลังจากเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย โดยกลุ่มสิทธิมนุษยชนเตือนว่าคดีนี้สะท้อนถึงสภาพแวดล้อมที่เปราะบางมากขึ้นเรื่อยๆ ของเสรีภาพสื่อในกัมพูชา
กลุ่มสิทธิมนุษยชน Licadho ระบุว่า พร สุเพียบ และเพียบ เพียระ จากสำนักข่าว TSP68 TV ถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 31 ก.ค. หลังจากกลับจากภารกิจในจ.อุดรมีชัย ใกล้ชายแดน โดยเจ้าหน้าที่กล่าวหาว่าทั้งคู่ให้ข้อมูลแก่รัฐต่างชาติที่อาจเป็นอันตรายต่อการป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 445 ของประมวลกฎหมายอาญา ที่มีโทษจำคุกตั้งแต่ 7-15 ปี
ทั้งคู่ถูกตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการโดยศาลจ.เสียมราฐ และถูกคุมขังก่อนการพิจารณาคดีในเรือนจำจังหวัด เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ภรรยาของเพียบ เพียระ ได้โพสต์คลิปวิดีโอขอโทษฮุนเซน ประธานสภาสูง และนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ลงในหน้าเพจเฟซบุ๊กของ TSP68 TV พร้อมทั้งวิงวอนให้มีการแทรกแซงคดีของสามี
ทั้งนี้ ผู้สังเกตการณ์กำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าชาวกัมพูชาทั้งสองคนจะถูกเพิกถอนสัญชาติภายใต้กฎหมายสัญชาติฉบับแก้ไขใหม่ของประเทศหรือไม่ กฎหมายที่อนุญาตให้เพิกถอนสัญชาติหากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานกบฎ เว้นแต่จะได้รับการอภัยโทษจากฮุนเซน
Licadho กล่าวว่ายังไม่ชัดเจนว่าโพสต์บนโซเชียลมีเดียชิ้นใดที่เป็นต้นเหตุของข้อกล่าวหาดังกล่าว แต่มีภาพถ่ายหนึ่งแสดงให้เห็นนักข่าวยืนอยู่กับทหารกัมพูชาหน้าปราสาทตาควายไม่นานหลังจากการหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 ก.ค. โดยมีทุ่นระเบิดปรากฎอยู่ด้านหลัง และภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ซ้ำโดยสื่อไทยในเวลาต่อมา
องค์กรนักข่าวไร้พรมแดนได้จัดอันดับกัมพูชาให้อยู่ในอันดับที่ 161 จาก 180 ประเทศ ในดัชนีเสรีภาพสื่อโลกประจำปี 2568 ลดลงจากอันดับที่ 151 ในปีก่อนหน้า องค์กรอ้างว่าการสังหารนักข่าวที่ทำข่าวการตัดไม้ผิดกฎหมายในเสียมราฐ และการจับกุมหลายครั้งที่เชื่อมโยงกับโพสต์บนโซเชียลมีเดียเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อนักข่าว
กลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่าข้อหากบฎที่กล่าวหา พร สุเพียบ และเพียบ เพียระ เป็นอีกขั้นหนึ่งของการกัดกร่อนเสรีภาพสื่อในกัมพูชา ที่การรายงานข่าวสำคัญมักถูกคุกคามด้วยมาตรการลงโทษทางอาญา.