MGR ออนไลน์ - หลังจากกิจกรรมทางโซเชียลมีเดียลดลงนับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งทางอาวุธกับไทย ระหว่างวันที่ 24-28 ก.ค. นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ได้ออกคำแถลงตอบความคิดเห็นของประชาชน ที่เขาระบุว่าเป็นความเข้าใจผิดและการแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองเกี่ยวกับการจัดการของกัมพูชาต่อกรณีการปะทะชายแดนกับไทย และการเจรจาหยุดยิง
ผู้นำกัมพูชาได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ชี้แจงประเด็นปัญหาชายแดนหลายข้อ ที่เขายอมรับว่ามีคำถามและข่าวลือแพร่สะพัดอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์ ที่รวมทั้งข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลหรือผู้นำบางคนนิ่งเฉย ประเด็นการสนับสนุนกองกำลังทหารแนวหน้า ข้อกล่าวหาเรื่องการถอนกำลังทหาร และข้อกล่าวหาเรื่องแลกเปลี่ยนที่ดินกับไทย ซึ่งฮุน มาเนต ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้อย่างหนักแน่น
ฮุน มาเนต ตอบโต้การวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่ารัฐบาลนิ่งเงียบเกินไป โดยย้ำว่าการนิ่งเฉยไม่ได้หมายความว่าไม่ดำเนินการใดๆ เขาอธิบายว่าในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและไม่แน่นอน การควบคุมการไหลเวียนของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนของสาธารณชน
ผู้นำกัมพูชาอธิบายว่า เพื่อรักษาความสอดคล้องของข้อมูล รัฐบาลได้จัดตั้งช่องทางการสื่อสารอย่างเป็นทางการผ่านโฆษกของรัฐบาล กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ นอกเหนือจากข้อมูลข่าวสารจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานกิจการชายแดน
ในประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับการถอนกองกำลังทหาร ฮุน มาเนต ชี้แจงว่า ระหว่างการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ไม่มีการออกคำสั่งให้ถอนกำลังทหาร และไม่มีเงื่อนไขใดในการเจรจาหยุดยิงที่กำหนดให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถอนกำลังออกจากตำแหน่ง
สำหรับข้อกล่าวอ้างที่ว่าการเจรจาที่ผ่านมาเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนที่ดินระหว่างกัมพูชาและไทย ฮุน มาเนต ได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่มีการเจรจาในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น ข้อตกลงหยุดยิงวันที่ 28 ก.ค. ที่มาเลเซีย มุ่งเน้นที่การยุติการสู้รบเพียงอย่างเดียว และการเจรจาทวิภาคีก่อนหน้าก็ไม่ได้กล่าวถึงการกำหนดเขตแดน
นอกจากนี้ ฮุน มาเนต ยังระบุว่าผลของการประชุมในวันที่ 28 ก.ค. รวมทั้งการประชุม GBC และ RBC ในเวลาต่อมา ล้วนเปิดเผยต่อสาธารณะโดยไม่มีความลับหรือการเจรจาแฝงใดๆ นอกเหนือจากการประชุมเหล่านั้น
ในการเจรจาเรื่องพรมแดน เขาย้ำถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาในการแก้ไขข้อพิพาทโดยสันติวิธีผ่านกลไกที่มีอยู่ เช่น คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ของกัมพูชาและไทย โดยยึดหลักข้อตกลง สนธิสัญญา และกฎหมายระหว่างประเทศ
ฮุน มาเนต ได้เน้นย้ำว่ารัฐบาลไม่เคยละเลยความรับผิดชอบต่อทหาร ตำรวจ และพลเมือง ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งหรือการละเมิดอื่นๆ
เขาเสริมว่าการที่กระทรวงขาดการรายงานหรือโพสต์ต่อสาธารณะเกี่ยวกับการสนับสนุนกองกำลังทหารแนวหน้า อาจทำให้บางคนเข้าใจผิดว่ารัฐบาลกำลังละเลยพวกเขา อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญไม่เพียงแต่กองกำลังทหารแนวหน้าและประชาชนที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประชาชนทั่วประเทศในทุกภาคส่วน
“บางคนอาจเข้าใจผิด เพราะกระทรวงต่างๆ ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับความช่วยเหลือที่มอบให้กับกองกำลังทหารแนวหน้า” ฮุน มาเนต ระบุ
ผู้นำกัมพูชายังได้แสดงความขอบคุณชาวกัมพูชาทุกคนสำหรับความรักชาติและการสนับสนุนกองกำลังทหารแนวหน้า ผ่านการบริจาคอาหาร เสบียง และทรัพยากร นอกเหนือจากความพยายามของรัฐบาล โดยอธิบายว่าสิ่งเหล่านี้คือการแสดงออกถึงความสามัคคีของชาติในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
ฮุน มาเนต ได้เรียกร้องให้ประชาชนเชื่อมั่นในความพยายามของรัฐบาลในการแก้ไขวิกฤตเพื่อผลประโยชน์ของชาติ แม้ว่ารายละเอียดหลายอย่างจะไม่สามารถเปิดเผยได้ในทันทีก็ตาม
“นี่เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก และเราต้องสามัคคีร่วมมือกันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อเอาชนะความท้าทาย” ฮุน มาเนต ระบุ.