xs
xsm
sm
md
lg

ชาวเขมรแห่คอมเม้นท์ไม่ไว้ใจไทย หลังผู้นำกัมพูชาส่งสารยินดีนายกฯใหม่ร่วมมือฟื้นฟูความสัมพันธ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



MGR ออนไลน์ - แม้จดหมายแสดงความยินดีของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนชาวกัมพูชา ท่ามกลางความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ แต่ชาวกัมพูชาอีกจำนวนมากยังคงแสดงความกังขาว่าผู้นำคนใหม่ของประเทศเพื่อนบ้านจะสามารถไว้วางใจได้หรือไม่

ในจดหมาย ฮุน มาเนต ได้กล่าวว่าเขาตั้งตารอที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับอนุทิน เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทยให้กลับสู่ภาวะปกติ สร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และเปลี่ยนพรมแดนที่มีร่วมกันให้เป็นพรมแดนแห่งสันติภาพ ความร่วมมือ การพัฒนา และความเจริญรุ่งเรือง

ทั้งสองประเทศได้ดำเนินการหยุดยิงตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้การสนับสนุนมาตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. แม้ว่าการสู้รบอย่างหนักระหว่างวันที่ 24-28 ก.ค. จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่สันติภาพยังคงเปราะบาง โดยทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่ายังคงปฏิบัติการทางทหารต่อเนื่อง

ชาวกัมพูชาได้แสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวเกี่ยวกับจดหมายดังกล่าวบนสื่อสังคมออนไลน์กันเป็นจำนวนมาก โดยบางคนชื่นชมกลยุทธ์ทางการทูตของฮุน มาเนต ขณะที่อีกหลายคนมองว่าประเทศไทยไม่น่าไว้วางใจ

“ผมหวังว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยจะมีวิสัยทัศน์ที่ดีต่อทั้งสองประเทศ นำสันติภาพมาสู่ชายแดนเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนทั้งสองประเทศ” แก้ว ยาน ผู้ใช้เฟซบุ๊ก กล่าว

“ฉันไม่เข้าใจ ไทยปฏิบัติกับเราแบบนี้ ทำไมเรายังจับมือกับพวกเขาอยู่ พวกเขามีกลอุบายมากมายมาตั้งแต่อดีต มาเนตไม่ควรเชื่อพวกเขา” ผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายหนึ่ง กล่าวเสริม

“เยี่ยมยอดมากสมเด็จ นี่คือการทูตที่แท้จริง และเราจะจัดการกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในภายหลัง” ความคิดเห็นของผู้ใช้เฟซบุ๊กระบุ

คิน เพีย ผู้อำนวยการสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ราชบัณฑิตสภาแห่งกัมพูชา ระบุว่ามุมมองของเขาสอดคล้องกับความคิดเห็นของชาวกัมพูชาในวงกว้าง

“เมื่อพูดถึงไทย ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร หรือพรรคใดเป็นผู้นำรัฐบาล พวกเขาไม่เคยละความทะเยอทะยานก้าวร้าวที่จะรุกล้ำและยึดครองดินแดนเขมร กลุ่มชาตินิยม ทหาร และนักการเมืองไทย ต่างฝันไม่หยุดหย่อน ปรารถนาที่จะยึดครองดินแดนเขมรของเรา” คิน เพีย กล่าว

“ดังนั้นการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจึงเป็นเส้นทางที่ยาวนานและยากลำบาก การแก้ไขปัญหาชายแดนเป็นเส้นทางที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง ในสถานการณ์เช่นนี้ เราต้องต่อสู้ด้วยจิตวิญญาณแห่งชาติเขมรที่เป็นหนึ่งเดียวกัน จับมือกันให้แน่น ไม่ปล่อยมือ” คิน เพีย กล่าวเสริม

เขาระบุว่าจดหมายของฮุน มาเนต ถึงอนุทินนั้นสะท้อนให้เห็นถึงประเพณีอันยาวนานของอาเซียนในการมอบไมตรีจิตแก่ผู้นำที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่

คิน เพีย กล่าวว่า ท่าทีดังกล่าวย้ำถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาในการเจรจาและยุติข้อพิพาทอย่างสันติภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากวาระการดำรงตำแหน่งของผู้นำไทยที่คาดว่าจะสั้น เขาเตือนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่น่าจะเปิดโอกาสให้จัดการแก้ไขปัญหาชายแดนที่ซับซ้อนและมีรากฐานทางประวัติศาสตร์ระหว่างสองประเทศ

เขากล่าวว่า การเมืองของไทยยังคงถูกครอบงำด้วยกลุ่มชาตินิยมสุดโต่ง ชนชั้นนำอนุรักษ์นิยม และทหาร ที่ยังคงใช้วิธีการเผชิญหน้ากับกัมพูชา

“พลังที่หยั่งลึกเหล่านี้แทบไม่เหลือพื้นที่ทางการเมืองสำหรับการประนีประนอม เนื่องจากความคิดเห็นของสาธารณชนมักมองว่าการเจรจาคือความอ่อนแอ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่พรมแดนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล การเปลี่ยนผู้นำเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถนำมาซึ่งสันติภาพที่ยั่งยืนในความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทยได้” คิน เพีย กล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น