รอยเตอร์ - ธนาคารโลกได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามลง จากหลักฐานที่ว่ามาตรการภาษีของสหรัฐฯ เริ่มส่งผลต่อการส่งออกสินค้าของผู้ส่งออกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้
ธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีของเวียดนามลงเหลือ 6.6% จาก 6.8% ในปีนี้ โดยระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจคาดว่าจะชะลอตัวลงในช่วงที่เหลือของปี เนื่องจากการส่งออกกลับมาฟื้นตัวหลังจากมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรก
การคาดการณ์ใหม่ของธนาคารโลกต่ำกว่าเป้าหมายอย่างเป็นทางการของรัฐบาลที่ 8.3%-8.5%
“ในฐานะเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออก เวียดนามยังคงมีความเสี่ยงจากการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและความต้องการที่ลดลงจากประเทศคู่ค้าสำคัญ ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าอาจเริ่มส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและผู้บริโภค” ธนาคารโลกระบุ
สหรัฐฯ ตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของเวียดนามได้กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าที่ 20% ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. ขณะที่สินค้าที่ขนส่งผ่านเวียดนามจะถูกเรียกเก็บภาษีที่ 40%
อ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ ระบุว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าของเวียดนามหดตัวลง 3.6% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
ด้านข้อมูลของรัฐบาลระบุว่าการส่งออกในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 14.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 2.6% จากเดือนก.ค.
“อัตราการเติบโตของการส่งออกน่าจะยังชะลอตัวจากผลกระทบของภาษีนำเข้า แต่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์น่าจะมีความยืดหยุ่นในระดับหนึ่ง” อ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ ระบุ
ธนาคารโลกยังคาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจว่าจะชะลอตัวอยู่ที่ 6.1% ในปี 2569 ก่อนเร่งขึ้นเป็น 6.5% ในปี 2570 โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการค้าโลก และเวียดนามยังคงน่าดึงดูดในฐานะฐานการผลิตที่แข่งขันได้
นายกรัฐมนตรีฝ่าม มีง จีง ของเวียดนาม กล่าวเมื่อสุดสัปดาห์ว่า ความตึงเครียดของการค้าโลก ประกอบกับความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และทางทหาร กำลังส่งผลกระทบต่อการผลิตและห่วงโซ่อุปทาน พร้อมเตือนถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นต่อเงินเฟ้อและอัตราแลกเปลี่ยน
“กิจกรรมภายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง การบริโภคและการลงทุนนำโดยรัฐบาลน่าจะยังสนับสนุนการเติบโตต่อไปแม้ว่าการส่งออกจะชะลอตัวลงอีก” อ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ ระบุ.