เอพี - พระสงฆ์หลายร้อยรูปในกัมพูชาได้ร่วมกันจัดพิธีทางศาสนาในวันนี้ (8) เพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารที่เสียชีวิตจากการปะทะตามแนวชายแดนกับไทยเมื่อเร็วๆ นี้ และร่วมสวดภาวนาเพื่อสันติภาพ
พระสงฆ์จำนวนมากได้เดินขบวนจากโรงเรียนสอนศาสนาหลักของประเทศใกล้กับพระบรมมหาราชวังในกรุงพนมเปญ เมืองหลวง ไปยังวัดที่อยู่ใกล้เคียง โดยมีแม่ชีและฆราวาส ร่วมขบวนไปด้วย
พระสงฆ์เหล่านี้ได้สวดภาวนาเพื่อรำลึกถึงดวงวิญญาณของทหารที่เสียชีวิต
ป้ายภายในวัดได้แสดงภาพถ่ายของชายในเครื่องแบบมากกว่า 40 คน ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าภาพเหล่านี้เป็นทหารที่เสียชีวิต หรือรวมถึงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และถูกควบคุมตัวหรือไม่
กัมพูชายอมรับว่ามีทหารเสียชีวิตเพียง 6 นายในการสู้รบ ที่เริ่มขึ้นเมื่อปลายเดือนก่อนและดำเนินไปเป็นเวลา 5 วัน
มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนจากทั้งสองฝ่าย รวมถึงพลเรือน และมีผู้พลัดถิ่นมากกว่า 260,000 คน จากทั้งสองฝั่งชายแดน
การหยุดยิงที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ได้ยุติการสู้รบ แม้ว่าทั้งสองฝ่ายกล่าวหาว่ามีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และข้อพิพาทเกี่ยวกับการอ้างสิทธิดินแดนยังคงไม่ได้รับการแก้ไข
พระเขม สร เจ้าคณะกรุงพนมเปญกล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักของพิธีที่จัดขึ้นในวันนี้ (8) คือการแสดงการสนับสนุนรัฐบาลในการทำงานเพื่อสันติภาพและยุติสงครามด้วยการหยุดยิง และเพื่อเป็นเกียรติแก่ดวงวิญญาณของทหารและพลเรือนชาวกัมพูชาที่เสียชีวิต และเรียกร้องให้ประเทศที่นับถือศาสนาพุทธทุกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย อยู่ร่วมกันอย่างมีสันติภาพ
“นั่นหมายความว่าเราต้องการอยู่เคียงข้างไทยในฐานะเพื่อนบ้านที่ดี อยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคีและสันติภาพ” พระเขม สร ให้สัมภาษณ์กับเอพี
การสู้รบเมื่อเร็วๆ นี้เกิดขึ้นจากเหตุทุ่นระเบิดระเบิดในพื้นที่พิพาทตามแนวชายแดนที่ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 5 นาย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียง 1 สัปดาห์หลังจากเกิดเหตุการณ์คล้ายคลึงกัน
นับเป็นการปะทุครั้งล่าสุดของการสู้รบจากข้อพิพาทที่ยืดเยื้อมานานหลายทศวรรษเกี่ยวกับการครอบครองพื้นที่หลายแห่งตามแนวชายแดนทางบกระยะทาง 800 กิโลเมตร
ภายใต้แรงกดดันจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่ขู่ว่าจะชะลอการเจรจาการค้าที่สำคัญ ทั้งสองประเทศได้ตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 ก.ค.
การเจรจาที่มาเลเซียเมื่อวันพฤหัสฯ ได้ยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองฝ่ายที่มีต่อข้อตกลงหยุดยิง แต่ยังไม่สามารถปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นายที่ถูกควบคุมตัวในสถานการณ์ขัดแย้งที่เกิดขึ้นหลังจากการหยุดยิงมีผลบังคับใช้ ซึ่งฝ่ายไทยระบุว่าได้ปฏิบัติต่อทหารเหล่านี้ตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และจะปล่อยตัวเมื่อการสู้รบที่ยังคงดำเนินอยู่สิ้นสุดลง
สหรัฐฯ และจีน ที่ทั้งสองประเทศต่างมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการหยุดยิง ได้แสดงความยินดีต่อการยืนยันการหยุดยิงเมื่อวันพฤหัสฯ และระบุว่าทั้งสองประเทศตั้งตารอที่จะสนับสนุนฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการรักษากระบวนการสันติภาพ.