MGR Online - "จีน-เมียนมา"จับมือเดินหน้าทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดนรอบ 3 ประเดิมแล้วที่"หมู่เจ้" รัฐฉานเหนือ 28-30 ก.ค. ชี้"เมียวดี"ตรงข้ามแม่สอด เป็น 1 ในพื้นที่เป้าหมายที่ทางการจีนต้องการกวาดล้าง"จีนเทา"ให้สิ้นซาก
วันที่ 4 สิงหาคม 2568 Eleven Media Group รายงานข่าวปฏิบัติการร่วมระหว่างตำรวจจีนและเมียนมา ในการกวาดล้างอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์ตามแนวชายแดนเมียนมา รอบที่ 3
ปฏิบัติการร่วมครั้งนี้ เริ่มจากการบุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของเหล่าจีนเทาในเมืองหมู่เจ้ ภาคเหนือของรัฐฉาน ระหว่างวันที่ 28-30 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยตำรวจจีนและเมียนมา สนธิกำลังกับทหารในพื้นที่ สามารถจับกุมชาวจีน 256 คน ที่เข้าเมืองมาอย่างผิดกฏหมาย ยึดอาคาร 15 หลัง ที่ถูกใช้เป็นฐาน พร้อมของกลางประกอบด้วย คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 30 เครื่อง โน๊ตบุ๊ค 7 เครื่อง โทรศัพท์มือถือชนิดต่างๆรวม 311 เครื่อง และอุปกรณ์ส่งสัญญานไวไฟอีก 14 ชุด
ถัดมา 1 วัน ช่วงเช้าวันที่ 31 กรกฎาคม พลตรี อ่องไหน่ตู่ รองผู้บัญชาการตำรวจเมียนมา เป็นตัวแทนนำผู้ต้องหาทั้ง 256 คน ส่งมอบให้กับตัวแทนรัฐบาลจีน ที่มารับจีนเทาเหล่านี้ไปดำเนินคดีและรับโทษในจีน ผ่านทางประตูม่านเวียง เมืองหมู่เจ้
ก่อนหน้าปฏิบัติการร่วมครั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พลตรี อ่องไหน่ตู่ได้เดินทางไปประชุมร่วมกับนาย Jiang Guoli ผู้ตรวจการทางการเมือง(Political Commissar) สำนักงานสืบสวนอาชญากรรม ในสังกัดกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ที่โรงแรม YESTE ในเมืองหมานซื่อ หรือเมืองขอน เขตปกครองตนเองชนชาติไตและจิ่งพัว เต๋อหง มณฑลยูนนาน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเมืองป่างซายและเมืองโก จังหวัดหมู่เจ้ เพื่อประสานงาน เตรียมความพร้อมของปฏิบัติการร่วมของตำรวจจีนและเมียนมา ในการกวาดล้างอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์รอบที่ 3
ที่ประชุมได้มีการทบทวนปฏิบัติการร่วมในเมืองหมู่เจ้ 2 ครั้งแรก เมื่อปี 2567 และ 2568 และปฏิบัติการร่วมกวาดล้างจีนเทาในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ของไทย ที่สามารถจับกุมชาวต่างชาติที่อยู่ในเครือข่ายอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์ได้ถึง 9,299 คน รวมถึงพูดคุยถึงการเดินหน้าปราบปราบอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์ที่จะมีขึ้นอีกในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ในข่าวไม่ได้ให้รายละเอียดว่า ปฏิบัติการร่วมกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของตำรวจจีนและเมียนมา จะดำเนินการต่อไปในพื้นที่ใด
ทางการจีนจับมือกับฝ่ายความมั่นคงเมียนมา เริ่มปฏิบัติการร่วมกวาดล้างจีนเทารอบแรกเมื่อต้นปี 2567 สามารถทลายแหล่งคอลเซ็นเตอร์ที่เปิดอยู่นับร้อยแห่งในหลายเมืองชายแดนรัฐฉาน-จีน เช่น ที่เมืองเล่าก์ก่าย เขตปกครองตนเองชนชาติโกก้าง เมืองป๋างซาง เมืองป๊อก เขตปกครองตนเองชนชาติว้า และเมืองหมู่เจ้ สามารถจับตัวจีนเทากลับไปดำเนินคดีในจีนได้นับหมื่นคน
ต่อมาในปีนี้(2568) ปฏิบัติการร่วมรอบที่ 2 ได้ขยายเข้ามาในพื้นที่ด้านในรัฐฉาน เช่น ที่เมืองล่าเสี้ยว เมืองต้างย่าน และเมืองไหย
ส่วนที่เมืองเมียวดี ซึ่งเป็นชายแดนติดกับประเทศไทย ปฏิบัติการร่วมครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เป็นปฏิบัติการลับที่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด มีเพียงภาพการนำตัวจีนเทา 996 คน ข้ามชายแดนจากเมืองเมียวดี มาขึ้นเครื่องบินที่สนามบินแม่สอด เพื่อกลับไปดำเนินคดีในจีน ซึ่งต้องใช้เวลาในการส่งตัวถึง 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ ถึง 2 มีนาคม ใช้เที่ยวบินรวม 15 เที่ยว
ปฏิบัติการร่วมครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 หลังเกิดเหตุลักพาตัวนายหวัง ซิง หรือซิง ซิง นักแสดงชาวจีน โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียวดี ทำให้ทางการจีนต้องส่งนายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ มากำกับการกวาดล้างครั้งนี้ด้วยตนเอง ทำให้มีชาวต่างชาติกว่า 9,500 คน ที่ทำงานอยู่กับพวกจีนเทาในเมียวดี โดยเฉพาะในเมืองใหม่ฉ่วยก๊กโก ถูกส่งตัวข้ามแดนมาในประเทศไทย ในนี้เป็นชาวจีนมากกว่า 5 พันคน
วันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ได้เดินทางไปพบกับ อู ตานส่วย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ เมียนมา ที่กรุงเนปิดอ ตามข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศ เมียนมา ระบุว่า นายหลิว จงอี้ และ อู ตานส่วย ได้พูดคุยเรื่องการเดินหน้าปราบปรามอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์ในพื้นที่ชายแดนเมียนมา-จีน และเมียนมา-ไทย และแผนความร่วมมือ 3 ประเทศ จีน เมียนมา และไทย เพื่อจัดการกับแก๊งจีนเทาเหล่านี้
ต่อมาวันที่ 7 กรกฎาคม นายเฉิน เจี้ยนเฟิง รองอธิบดี สำนักงานสืบสวนอาชญากรรม นำคณะรวม 11 คน เดินทางมายังอำเภอแม่สอด และข้ามไปยังเมืองเมียวดี เพื่อร่วมประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมียนมาที่เดินทางมาจากกรุงเนปิดอ
แต่หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ ได้เกิดน้ำท่วมใหญ่ทั้งในฝั่งแม่สอดและเมียวดี ทำให้ข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของจีนเทาในเมียวดี ได้เงียบหายไป
จนถึงปัจจุบัน มีรายงานยืนยันว่าในเมืองเมียวดี และอีกหลายพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา เช่นที่เมืองพญาโตงซู ยังคงมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของจีนเทาหลงเหลืออยู่อีกมาก และทุกแก๊งยังคงประกอบอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์อยู่