รอยเตอร์ - รัฐบาลเวียดนามรายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเรือท่องเที่ยวล่มในอ่าวฮาลอง เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 38 คนแล้ว และยังมีอีกหลายคนที่สูญหาย ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงค้นหาผู้รอดชีวิตอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเตรียมรับมือกับพายุไต้ฝุ่นวิภาที่กำลังเคลื่อนเข้ามา
เรือที่เกิดเหตุล่มเมื่อบ่ายวันเสาร์ (19) มีนักท่องเที่ยวโดยสารมาทั้งหมด 48 คน และลูกเรือ 5 คน ซึ่งนับเป็นอุบัติเหตุทางเรือครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปีในพื้นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งนี้
“มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 คน และได้รับการช่วยเหลือ 10 คน” รัฐบาลระบุในคำแถลง
สำนักข่าวเวียดนามรายงานว่านักท่องเที่ยวทั้งหมดเป็นชาวเวียดนาม รวมทั้งเด็กอีกหลายคน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายสิบคน รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาชายแดน ทหารเรือ ตำรวจ และนักประดาน้ำมืออาชีพ ได้ถูกส่งเข้าช่วยเหลือกู้ภัย และแม้ว่าทะเลจะสงลลงแล้ว แต่สภาพอากาศจำกัดทัศนวิสัย ทำให้ปฏิบัติการกู้ภัยยากลำบากขึ้น
รัฐบาลระบุว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถกู้เรือที่ล่มได้สำเร็จ
อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันเสาร์ ไม่นานหลังจากพายุไต้ฝุ่นวิภาเข้าสู่ทะเลจีนใต้
เจ้าหน้าที่รานยงานว่ามีกระแสลมแรง ฝนตกหนัก และฟ้าผ่าในพื้นที่ขณะเกิดเหตุ และเสริมว่าสภาพเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากพายุไต้ฝุ่นที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามา แต่เกิดจากรูปแบบลมที่พัดผ่านภาคเหนือ
อ่าวฮาลองที่อยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 200 กิโลเมตร ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายหมื่นคนทุกปี และการท่องเที่ยวทางเรือได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ในปี 2554 เกิดเหตุเรือท่องเที่ยวล่มในอ่าวฮาลองทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ
พายุไต้ฝุ่นวิภา ที่เป็นพายุลูกที่ 3 ที่พัดเข้าสู่ทะเลจีนใต้ในปีนี้ คาดว่าจะขึ้นฝั่งตามแนวชายฝั่งตอนเหนือของเวียดนามในต้นสัปดาห์.
