เอเอฟพี - ตำรวจกัมพูชาได้เข้าจับกุมชาวเวียดนามได้มากกว่า 200 คน ในปฏิบัติการบุกทลายศูนย์หลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต หลังจากนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ได้สั่งปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ตามการเปิดเผยของตำรวจวันนี้ (16)
สหประชาชาติระบุว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นศูนย์กลางการหลอกลวงทางออนไลน์ ที่คนงานมักใช้กลวิธีหลอกให้รักหรือลวงทำธุรกิจเพื่อฉ้อโกงเงินกับผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย ที่มีมูลค่าราว 40,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี
นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ได้ออกคำสั่งที่เปิดเผยต่อสาธารณะเมื่อวันอังคาร (15) ระบุว่าให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและกองทัพ “ป้องกันและปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์” และเตือนว่าหากเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินการใดๆ พวกเขาอาจโดนย้ายหรือถูกไล่ออก
ตำรวจในกรุงพนมเปญกล่าวว่า พวกเขาได้บุกค้นอาคาร 2 แห่ง ที่เป็นแหล่งที่อยู่ของสแกมเมอร์ในวันจันทร์และวันอังคาร โดยจับกุมชาวเวียดนามได้ 149 คน ชาวจีน 3 คน และชาวกัมพูชา 85 คน
ส่วนที่เมืองสีหนุวิลล์ การเข้าตรวจค้นเมื่อวันอังคารใน 4 สถานที่ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมชาวเวียดนามได้ 63 คน ยึดคอมพิวเตอร์ 54 เครื่อง ตามรายงานของตำรวจ
หลายคนที่ได้รับอิสรภาพจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบุว่าพวกเขาถูกค้ามนุษย์หรือถูกล่อลวงด้วยคำกล่าวเท็จ
รายงานที่เผยแพร่โดยองค์การนิรโทษกรรมเมื่อเดือนที่ผ่านมาระบุว่า การละเมิดในศูนย์หลอกลวงออนไลน์ของกัมพูชากำลังเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก
รายงานยังระบุว่ามีศูนย์หลอกลวงออนไลน์อีกอย่างน้อย 53 แห่งในกัมพูชา ที่กลุ่มอาชญากรกระทำการค้ามนุษย์ บังคับใช้แรงงาน ใช้แรงงานเด็ก ทรมาน พรากอิสรภาพ และบังคับให้คนงานทำงานเยี่ยงทาส
ในเดือนมี.ค. กัมพูชาได้ส่งตัวคนไทยกลับประเทศ 119 คน จากบรรดาชาวต่างชาติ 230 คน ที่ถูกควบคุมตัวระหว่างการบุกตรวจค้นสถานที่ที่ต้องสงสัยว่าเป็นศูนย์หลอกลวงทางไซเบอร์ในเมืองปอยเปต
สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติได้ออกคำเตือนในเดือนเม.ย. ว่า อุตสาหกรรมหลอกลวงนี้ กำลังขยายตัวออกไปนอกพื้นที่หลักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยแก๊งอาชญากรได้ขยายการปฏิบัติการไปไกลถึงอเมริกาใต้ แอฟริกา ตะวันออกกลาง ยุโรป และบางเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก.