MGR Online - ทัพพม่ายึดคืนเมืองหนองเขียวได้เบ็ดเสร็จ หลังทหารตะอั้ง-PDF ถอนกำลังออกจากเมืองไปแล้วทั้งหมด แถมก่อนจาก ยังระเบิดทิ้งสะพาน"ก๊กตวิน" คอขวดสำคัญตรงก้นเหวก๊กเทค หวังย้อนรอยเหตุป่วนเส้นทางการค้าจีน-เมียนมา เมื่อ 6 ปีก่อน
สำนักข่าว Ngao Leng Mun Mai รายงานว่า เมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) การสู้รบในเมืองหนองเขียว จังหวัดจ๊อกแม รัฐฉานเหนือ ได้สิ้นสุดลงแล้ว เมื่อกองทัพพม่าได้รับชัยชนะ พร้อมเคลื่อนกำลังพลจำนวนมากเข้ามาประจำการอยู่ทั่วทั้งตัวเมือง ขณะที่กองทัพตะอั้ง (TNLA) และกองกำลังติดอาวุธของรัฐบาลเงา(PDF) คู่ต่อกร ได้ถอนทหารออกไปจากเมืองหนองเขียวแล้วทั้งหมด
ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นมา สื่อออนไลน์ในเมียนมา ต่างเผยแพร่ภาพทหารพม่ายืนถ่ายรูปอยู่ด้านหน้าสถานที่สำคัญทุกแห่งในเมืองหนองเขียว เพื่อยืนยันชัยชนะที่มีต่อกองกำลังผสม TNLA-PDF รวมถึงภาพทหารพม่าประชุมร่วมกับชาวบ้านและผู้นำชุมชน
เมืองหนองเขียวตั้งอยู่ตรงรอยต่อระหว่างภาคมัณฑะเลย์กับรัฐฉานเหนือ และเป็นคอขวดสำคัญของทางหลวงหมายเลข 3 เส้นทางหลักสำหรับขนส่งสินค้าที่จีนและเมียนมาซื้อขายกัน เมืองนี้จึงมีบทบาทสำคัญในโครงข่ายโลจิสติกส์ตามระเบียงเศรษฐกิจจีน-เมียนมา
ทางตอนเหนือของตัวเมืองหนองเขียวเป็นหุบเหวลึกกว่า 600 เมตร ที่เรียกว่าหุบเขาก๊กเทค ด้านบนเป็นสะพานรถไฟก๊กเทคอายุกว่า 100 ปี ที่อังกฤษสร้างเอาไว้ตั้งแต่สมัยเป็นเจ้าอาณานิคม ทางหลวงหมายเลข 3 ช่วงที่ต้องผ่านหุบเขาก๊กเทคเป็นเพียงถนนเล็กๆ 2 เลน ที่ลัดเลาะ คดเคี้ยว ไปตามหุบเหวสูงขัน ที่ก้นเหวด้านล่างสุด เป็นสะพานข้ามลำน้ำเล็กๆที่เรียกว่าสะพานก๊กตวิน หรือที่ชาวไทใหญ่เรียกว่า"โขกึ๊ต"
กองทัพตะอั้ง สนธิกำลังกับ PDF บุกยึดเมืองหนองเขียวไว้ได้ในปฏิบัติการ 1027 รอบ 2 เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2567 ทำให้สามารถควบคุมเส้นทางขนส่งสินค้าของจีนและเมียนมาผ่านทางหลวงหมายเลข 3 เอาไว้ได้แล้วมากกว่า 80% เพราะถนนในหุบเขาก๊กเทค หากมีรถเสีย หรือเกิดอุบัติเหตุ หรือถูกปิด จะมีผลต่อเนื่องถึงทางหลวงหมายเลข 3 เกือบตลอดทั้งเส้นโดยทันที โดยเฉพาะถนนส่วนที่อยู่ในรัฐฉาน ที่อาจต้องเป็นอัมพาตไปหลายวัน
เมืองหนองเขียวจึงกลายเป็นสมรภูมิสู้รบรุนแรงต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นมา เพราะกองทัพพม่าได้เสริมทั้งกำลังพลและอาวุธ รวมถึงมีการใช้อากาศยานบุกโจมตีเมืองหนองเขียวอย่างหนัก เพื่อหวังยึดคืนเมืองหนองเขียวให้ได้ จนประสบชัยชนะตามภาพข่าวที่ปรากฏเมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ระหว่างที่ทหารตะอั้ง และ PDF กำลังถอนตัวจากเมืองหนองเขียวกลับไปอยู่ทางฝั่งมัณฑะเลย์ ได้มีการวางระเบิด"โขกึ๊ต" หรือสะพานก๊กตวินที่อยู่ก้นเหวจนได้รับความเสียหาย ส่งผลให้การสัญจนบนทางหลวงหมายเลข 3 ช่วงที่ต้องผ่านหุบเขาก๊กเทคถูกตัดขาดไปโดยสิ้นเชิง
สะพานก๊กตวินถูกระเบิดทิ้งครั้งนี้ เป็นรอบที่ 2 แล้ว ในช่วง 6 ปี ที่กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ 3 กลุ่ม ได้แก่กองทัพตะอั้ง กองทัพโกกั้ง(MNDAA) และกองทัพอาระกัน(AA) ซึ่งรวมตัวกันในนามพันธมิตรภาคเหนือ เปิดปฏิบัติการบุกโจมตีฐานที่มั่นของทหารพม่าในรัฐฉานเหนือเพื่อสร้างความปั่นป่วนแก่ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจของจีนในเมียนมา และการทำลายสะพานก๊กตวินสามารถสร้างเสียหายอย่างหนักแก่การค้าระหว่างจีนกับเมียนมา จนทางการจีนไม่สามารถยอมได้
ปฏิบัติการโจมตีเส้นทางเศรษฐกิจจีน-เมียนมา เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2562 พันธมิตรภาคเหนือได้ใช้อาวุธหนักยิงถล่มโรงเรียนนายร้อยเทคนิค(DSA) กองทัพพม่า ที่เมืองปินอูลวิน และระเบิดสะพานก๊กตวินจนเสียหายใช้การไม่ได้ ทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างจีนและเมียนมาในตอนนั้นต้องหยุดชะงักไปทันที
จากนั้น การสู้รบระหว่างพันธมิตรภาคเหนือกับกองทัพพม่าก็แพร่ลามขึ้นไปตามเมืองต่างๆในรัฐฉานเหนือ ทั้งล่าเสี้ยว หมู่เจ้ และก๊ตขาย สื่อในเมียนมารายงานว่า ปฏิบัติการของพันธมิตรภาคเหนือครั้งนั้น ทำให้รัฐบาลจีนไม่พอใจอย่างมาก
วันที่ 27 สิงหาคม 2562 อู จ่อตินส่วย รัฐมนตรีกระทรวงสำนักที่ปรึกษาแห่งรัฐในรัฐบาลพรรค NLD เป็นตัวแทนอองซาน ซูจี ต้องรีบบินไปยังกรุงปักกิ่ง เพื่อเข้าพบกับหวังอี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน
รัฐบาลจีนต้องลงมาเป็นตัวกลาง เปิดให้มีการเจรจาสงบศึกระหว่างตัวแทนกองทัพพม่ากับพันธมิตรภาคเหนือที่เมืองเชียงตุง การเจรจาจัดขึ้นอย่างน้อย 3 ครั้ง ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 แต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ขึ้นมาเสียก่อนในปลายปี 2562 ทำให้การเจรจาต้องหยุดชะงักไปโดยปริยาย ทั้งที่ยังไม่ได้ข้อสรุป
ระหว่างที่มีการเจรจากันระหว่างตัวแทนกองทัพพม่ากับตัวแทนพันธมิตรภาคเหนือที่เมืองเชียงตุง กระทรวงก่อสร้างเมียนมา ก็ได้เร่งซ่อมแซมสะพานก๊กตวิน จนแล้วเสร็จและกลับมาเปิดใช้งานได้อีกครั้งในวันที่ 23 ตุลาคม 2563 ใช้เวลาซ่อมแซม 12 เดือน
สะพานก๊กตวินที่ซ่อมแซมใหม่ เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ยาว 210 ฟุต กว้าง 24 ฟุต สามารถรับน้ำหนักรถได้สูงสุด 60 ตัน ใช้งบประมาณซ่อมแซม 874 ล้านจั๊ต ต้องถูกระเบิดทิ้งรอบที่ 2 ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 ขณะที่กองทัพตะอั้งกับ PDF ถอนกำลังออกจากเมืองหนองเขียว
พันธมิตรภาคเหนือ ซึ่งประกอบด้วย กองทัพตะอั้ง กองทัพโกก้าง และกองทัพอาระกัน ได้เปิดปฏิบัติการ 1027 ขึ้นอีกครั้ง เมื่อปลายเดือนตุลาคม 2566 เพื่อสร้างความปั่นป่วนให้แก่ระเบียงเศรษฐกิจจีน-เมียนมา โดยปฏิบัติการ 1027 มี PDF และรัฐบาลเงา(NUG) ที่ตั้งขึ้นโดยอดีตนักการเมืองพรรค NLD ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประเทศตะวันตก เข้าร่วมด้วย