MGR ออนไลน์ - พล.อ.เตีย เซยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ได้เรียกร้องอย่างหนักแน่นให้อดีตทหารพรานของไทยที่เกี่ยวข้องในเหตุทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชาออกคำขอโทษต่อสาธารณชน
พล.อ.เตีย เซยฮา เตือนว่าหากไม่ขอโทษต่อสาธารณชน เหตุการณ์นี้อาจนำไปสู่การดำเนินคดีในศาล
ในการกล่าวปราศรัยในพิธีต้อนรับกลับประเทศของหน่วยวิศวกรรมอเนกประสงค์ 468 จากภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง พล.อ.เตีย เซยฮา ระบุว่ากัมพูชาไม่ต้องการที่จะปล่อยให้เหตุการณ์นี้เงียบหายไป โดยยืนยันว่าการขอโทษต่อสาธารณชนเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อคลายความไม่สบายใจของชาวกัมพูชาและรับผิดชอบต่อการกระทำที่เกิดขึ้น
รายงานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับชาวไทย 2 คน โดยหนึ่งในนั้นมีรายงานว่าสวมเครื่องแบบทหารไทย ได้ทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชาที่ประจำอยู่ที่ปราสาทตาเมือนธมก่อนหลบหนีไป ซึ่งการโจมตีดังกล่าวก่อให้เกิดความไม่พอใจอย่างกว้างขวางต่อสาธารณชนทั่วกัมพูชา
แม้รายงานระบุว่าบุคคลดังกล่าวได้กล่าวขอโทษเป็นการส่วนตัวแล้ว แต่รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชาได้ย้ำถึงความจำเป็นในการออกคำแถลงต่อสาธารณชนเพื่อลดความตึงเครียดและแสดงความจริงใจอย่างแท้จริง เขายืนยันว่าทางการกัมพูชากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและคดีนี้จะไม่ถอนฟ้องง่ายๆ
พล.อ.เตีย เซยฮา ย้ำถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาในการแก้ไขข้อพิพาทกับไทย โดยใช้ทั้งกลไกระหว่างประเทศ สำหรับประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่มอมเบย (สามเหลี่ยมมรกต) และช่องทางทวิภาคีสำหรับปัญหาชายแดนที่เหลือ
นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้ไทยเปิดด่านชายแดนทั้งหมดอีกครั้งโดยฝ่ายเดียวก่อนที่กัมพูชาจะดำเนินการตาม โดยระบุว่าจะไม่มีการเจรจาในประเด็นนี้
รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้กล่าวสรุปยืนยันถึงความพร้อมของประเทศที่จะตอบสนองต่อการรุกรานใดๆ ของกองกำลังทหารของไทย ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ขณะเดียวกัน เขายังกล่าวยืนยันว่าแม้ประเทศจะมีจุดยืนเช่นนั้น แต่ความปรารถนาของกัมพูชาคือการร่วมมือและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องระหว่างสองประเทศในฐานะเพื่อนบ้านที่ดี โดยตั้งตารอที่จะกลับไปสู่สถานการณ์เดิมก่อนวันที่ 28 พ.ค. 2568.