รอยเตอร์ - เวียดนามกำลังเตรียมบทลงโทษที่เข้มงวดขึ้นเพื่อปราบปรามการฉ้อโกงทางการค้าและการถ่ายลำสินค้าผิดกฎหมาย และมุ่งเน้นการตรวจสอบสินค้าจีนในความพยายามที่จะปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้กับวอชิงตัน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์แห่งนี้ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่จะลดอัตราภาษีนำเข้าจากเวียดนาม เหลือ 20% จาก 46% จากที่สหรัฐฯ ขู่ไว้เมื่อเดือนเม.ย.
แต่สินค้าที่วอชิงตันมองว่ามีการถ่ายลำอย่างผิดกฎหมายผ่านเวียดนามจะถูกเรียกเก็บภาษี 40%
มาตรการใหม่ที่ขยายการปราบปรามการฉ้อโกงทางการค้าและสินค้าลอกเลียนแบบที่นำเข้ามาในประเทศในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาจะเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาประโยชน์ให้กับทรัมป์
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวหาเวียดนามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าถูกใช้เป็นทางผ่านสำหรับสินค้าจีนที่มีปลายทางไปยังสหรัฐฯ พวกเขากล่าวหาว่าสินค้าบางรายการติดป้าย “ผลิตในเวียดนาม” ทั้งที่มูลค่าเพิ่มในประเทศแทบไม่มีหรือไม่มีเลย ซึ่งทำให้ผู้ส่งออกจีนสามารถใช้ประโยชน์จากภาษีนำเข้าที่ต่ำลงของเวียดนามและหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีนำเข้าที่สูงของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจากจีนได้
รัฐบาลเวียดนามจะออกกฤษฎีกาฉบับใหม่ที่จะกำหนดระดับการคว่ำบาตรเพิ่มเติมสำหรับบการฉ้อโกงแหล่งกำเนิดสินค้า และดำเนินมาตรการและการตรวจสอบที่เข้มงวดยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันการฉ้อโกง ตามเอกสารของกระทรวงการค้าเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ระบุ
ทั้งนี้ วันที่ 3 ก.ค. เป็นวันเดียวกับที่ทรัมป์และโต เลิม ผู้นำสูงสุดของเวียดนาม บรรลุข้อตกลง ทำให้เวียดนามเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับภาษีนำเข้าถัดจากอังกฤษ
ทางการเวียดนามได้รับแจ้งให้เพิ่มการตรวจสอบสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐฯ ตามเอกสารที่ระบุว่าการตรวจสอบเมื่อเร็วๆ นี้ มุ่งเน้นไปที่สินค้าที่มีความเสี่ยงต่อการฉ้อโกงทางการค้า หรือสินค้าจีนที่อยู่ภายใต้มาตรการป้องกันทางการค้าของสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ
เอกสารดังกล่าวได้อ้างอิงถึงเฟอร์นิเจอร์ไม้ ไม้อัด ชิ้นส่วนเครื่องจักรเหล็ก จักรยาน แบตเตอรี่ หูฟังไร้สาย และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ
เอกสารดังกล่าวยังระบุตัวอย่างของการฉ้อโกงเช่น การใช้เอกสารปลอมเพื่อขอเอกสารรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าปลอม และการนำเข้าสินค้าปลอมเข้ามาในเวียดนาม
เอกสารยังระบุเพิ่มเติมว่าการฉ้อโกงการค้าเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และมุ่งเน้นไปที่การหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรและมาตรการป้องกันทางการค้า
กระทรวงการค้าเวียดนามและสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ไม่ได้ตอบกลับคำขอความคิดเห็นของรอยเตอร์
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องดำเนินการในข้อตกลงภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐฯ และเวียดนาม และยังไม่ชัดเจนว่าวอชิงตันจะกำหนดนิยามว่าการถ่ายลำสินค้าผิดกฎหมายเป็นอย่างไร และเวียดนามต้องเพิ่มมูลค่าสินค้านำเข้าเท่าใดเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี 40%
แหล่งข่าวระบุว่าสหรัฐฯ กำลังกดดันให้เวียดนามลดการพึ่งพาส่วนประกอบนำเข้าจากจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
แต่ยังไม่ชัดเจนว่าข้อตกลงจะเสร็จสิ้นเมื่อใด
ร่างกฤษฎีกาของรัฐบาลเวียดนามจะกำหนดขั้นตอนที่เข้มงวดขึ้น เพื่อตรวจสอบบริษัทที่รับรองแหล่งกำเนิดสินค้าที่พวกเขาค้าขายด้วยตนเอง เพิ่มการตรวจสอบสินค้าที่ซื้อขายด้วยการตรวจสอบในสถานที่จริงมากขึ้น และเพิ่มการตรวจสอบการออกใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ตามร่างกฤษฎีกาที่ยังมีระบุวันที่ที่รอยเตอร์ได้เห็น
ร่างกฤษฎีกานี้ยังไม่ระบุบทลงโทษ ที่คาดว่าจะถูกเพิ่มในฉบับแก้ไขหรือในกฎหมายอื่นๆ แหล่งข่าวใกล้ชิดกับกระบวนการดังกล่าวระบุ ซึ่งบุคคลดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยในเรื่องนี้และปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อ
เวียดนามส่งออกไปยังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่านับตั้งแต่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเริ่มต้นขึ้นในปี 2561 เมื่อรัฐบาลทรัมป์ชุดแรกกำหนดภาษีอย่างกว้างขวางกับปักกิ่ง ที่ส่งผลให้ผู้ผลิตบางรายต้องย้ายฐานการผลิตลงใต้
ในขณะที่การส่งออกของเวียดนามไปยังสหรัฐฯ เติบโตมากขึ้น แต่การนำเข้าจากจีนก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยมูลค่าการนำเข้าจากจีนเกือบจะเท่ากับมูลค่าที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมีมูลค่ารวมประมาณ 140,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2567 ตามข้อมูลจากสหรัฐฯ และเวียดนาม.