xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มติดอาวุธ KNDF อ้างยิงเครื่องบินรบกองทัพพม่าตกในเขตสู้รบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอพี - เครื่องบินรบของกองทัพพม่าตกในเขตสู้รบทางตะวันออกของประเทศ ตามการระบุของกลุ่มติดอาวุธต่อต้านทหารที่อ้างว่าเป็นผู้ยิง ขณะที่สื่อของรัฐรายงานว่าเครื่องบินสูญหายไปลำหนึ่ง

รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดและเลขาธิการหมายเลข 2 ของกองกำลังป้องกันชาติกะเรนนี (KNDF) เผยกับสำนักข่าวเอพีว่า เครื่องบินของกองทัพพม่าลำหนึ่งถูกกองกำลังต่อต้านยิงตกเมื่อเช้าวันพุธ (2) ระหว่างการสู้รบอย่างดุเดือดใกล้เมืองฮปาซอง ในรัฐกะยา

เมืองฮปาซองอยู่ห่างจากกรุงเนปีดอ เมืองหลวงของประเทศ ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 160 กิโลเมตร

รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดของ KNDF ระบุว่าพบซากเครื่องบินพร้อมร่างนักบิน 2 นาย ในบริเวณใกล้เคียงในเช้าวันพฤหัสฯ (3) หลังจากออกค้นหา เขายังโพสต์รูปและวิดีโอของซากเครื่องบินที่มีควัยพวยพุ่งบนเนินเขาพร้อมกับกลุ่มนักสู้ของฝ่ายต่อต้านรวมทั้งตัวเขาเอง ขณะที่สื่อท้องถิ่นโพสต์รูปภาพเครื่องบินที่ตกพร้อมกับสิ่งที่ดูเหมือนเป็นร่างคนในบริเวณใกล้เคียง

คำกล่าวอ้างที่ว่าเครื่องบินถูกยิงตกนั้นเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากหนังสือพิมพ์เมียนมาอาลินของทางการพม่ารายงานว่าเครื่องบินรบของกองทัพหายไปจากจอเรดาร์อย่างกะทันหันและสูญเสียการสื่อสารระหว่างการซ้อมรบในคืนวันอังคาร ห่างจากกรุงเนปีดอไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 130 กิโลเมตร

รายงานระบุว่าสาเหตุอาจเกิดจากความผิดพลาดทางเทคนิคหรือสภาพอากาศเลวร้าย และขณะนี้กำลังดำเนินการค้นหาและกู้ภัย โดยรายงานไม่ได้ระบุประเภทของเครื่องบินรบหรือกล่าวถึงผู้เสียชีวิต

KNDF ระบุว่าเครื่องบินลำดังกล่าวเป็นเครื่องบินโจมตีรุ่น FTC-2000G แบบ 2 ที่นั่งของจีน และในคำแถลงที่เผยแพร่บนหน้าเพจเฟซบุ๊กในวันพฤหัสฯ (3) กลุ่มต่อต้านกล่าวว่ากองทัพได้เปิดฉากโจมตีอย่างหนักด้วยเครื่องบินขับไล่หลายลำ หลังจากกองกำลังต่อต้านผสมเข้ายึดกองพันทหารราบของกองทัพในเมืองฮปาซางเมื่อวันจันทร์

เจ้าหน้าที่ของ KNDF ระบุว่าเครื่องบินที่ถูกยิงตกอาจเป็นลำเดียวกับที่กองทัพประกาศว่าสูญหาย

รัฐกะยาเป็นรัฐที่มีขนาดเล็กที่สุดใน 7 รัฐของพม่าและประชากรส่วนใหญ่ในรัฐเป็นชาวกะเหรี่ยงแดงหรือกะเรนนี ซึ่งเผชิญกับความขัดแย้งรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกองทัพเข้ายึดอำนาจในเดือนก.พ. 2564 จากรัฐบาลของอองซานซูจี พื้นที่ดังกล่าวมีพรมแดนติดกับไทยและอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงของพม่า

วิกฤติดังกล่าวได้ส่งผลให้เกิดการต่อต้านด้วยอาวุธมากขึ้น และทำให้ประเทศอยู่ในภาวะสงครามกลางเมือง กองทัพเปิดฉากโจมตีในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยอาศัยการโจมตีทางอากาศอย่างหนัก

เครื่องบินรบส่วนใหญ่ของกองทัพพม่ามาจากจีนหรือรัสเซีย ที่ยังคงจัดหาอาวุธอื่นๆ ให้กองทัพด้วย ขณะที่ชาติตะวันตกหลายชาติยังใช้มาตรการคว่ำบาตรอาวุธ นอกเหนือไปจากมาตรการคว่ำบาตรอื่นๆ ต่อรัฐบาลทหาร และกำลังพยายามปิดกั้นการจัดหาเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบิน

เชื่อว่ากองทัพสูญเสียเฮลิคอปเตอร์ไปอย่างน้อย 5 ลำ และเครื่องบินรบ 4 ลำ รวมทั้งเครื่องบิน 2 ลำ ที่ตกในเดือนพ.ค. และเดือนมิ.ย. ที่กลุ่มต่อต้านอ้างว่าเป็นผู้ยิงตก.


กำลังโหลดความคิดเห็น