MGR ออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา อ้างว่าจะรักษาความมั่นคงทางอาหารของประเทศขณะปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยผู้นำกัมพูชาระบุว่าทางการได้เตรียมพร้อมรับมือหากข้อพิพาทพรมแดนยืดเยื้อเป็นเวลานาน ซึ่งหมายความว่ากัมพูชาจะไม่พึ่งพาไทยในการดำรงชีพ
ฮุน มาเนต กล่าวว่าประเทศเพื่อนบ้านต้องการดูหมิ่นกัมพูชาด้วยการใช้กลยุทธ์ปิดตลาดกับกัมพูชา แต่ในทางตรงกันข้ามการปิดด่านชายแดนครั้งนี้กลับเป็นการทำร้ายตัวเองเพราะเศรษฐกิจมูลค่าหลายพันล้านขึ้นอยู่กับกัมพูชา
คำกล่าวของนายกฯฮุน มาเนต มีขึ้นในขณะที่ไทยตัดสินใจปิดด่านชายแดนกับกัมพูชาทั้งหมด และกัมพูชาได้ตอบโต้ด้วยการประกาศปิดจุดผ่านแดนเช่นเดียวกัน รวมทั้งห้ามการนำเข้าผัก ผลไม้ เชื้อเพลิง และก๊าซทุกชนิดจากไทย
ผู้นำกัมพูชาแสดงความคิดเห็นดังกล่าวเนื่องในวันประมงแห่งชาติที่จัดขึ้นที่ จ.ตาแก้ว โดยเขาระบุว่ากัมพูชามีมาตรการรับมือและป้องกันภัยคุกคามจากไทย ขณะที่เพื่อนบ้านของกัมพูชาพยายามคุกคามกัมพูชาทั้งทางเศรษฐกิจและทางทหาร
ฮุน มาเนต กล่าวว่ารัฐบาลกัมพูชาได้วางนโยบายและยุทธศาสตร์ที่สามารถต้านทานภัยคุกคามจากประเทศเพื่อนบ้านได้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก โดยข้อพิพาทชายแดนกับไทยในปัจจุบันได้แสดงให้เห็นถึงนโยบายที่ถูกต้องในเกือบทุกด้านที่กัมพูชาเป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา สาธารณสุข โครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ เช่น น้ำ ถนน ไฟฟ้า และอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
“สิ่งเหล่านี้ทำให้เราสามารถต้านทานความพยายามที่จะคุกคามกัมพูชาได้ ไม่ว่าภัยคุกคามจากกองกำลังทหาร ภัยคุกคามทางกฎหมาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยคุกคามทางเศรษฐกิจ” ฮุน มาเนต กล่าวย้ำ
ผู้นำกัมพูชายังกล่าวว่าเขาได้สั่งการให้คณะกรรมการด้านนโยบายจัดทำกรอบนโยบายเพื่อส่งเสริมการพัฒนาภาคส่วนอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมทางการเกษตรในพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศ ที่ประกอบด้วยจ.พระตะบอง จ.บ้านใต้มีชัย และจ.โพธิสัตว์ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่านอกจากการปลูกพืชผลทางการเกษตรแล้ว ควรมีการส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเพื่อส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศด้วย.