สื่อต่างชาติชี้คลิปเสียงสนทนา ‘นายกฯไทย-ฮุนเซน’ ยิ่งโหมกระพือความตึงเครียด

รอยเตอร์ - ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาได้รับผลกระทบอย่างหนักวันนี้ (18) หลังจากการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ของไทย และฮุนเซน อดีตผู้นำกัมพูชาที่ยังคงมีอิทธิพลถูกเผยแพร่ออกมา ที่อาจทำให้ความตึงเครียดทวีความรุนแรงมากขึ้น

ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านอยู่ในจุดต่ำสุดในรอบมากกว่าทศวรรษ หลังจากเกิดข้อพิพาทเรื่องดินแดนชายแดน ที่ก่อให้เกิดความวิตกว่าจะเกิดการเผชิญหน้าทางทหารขึ้น หลังจากวาทกรรมชาตินิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและมีการระดมกำลังทหารจากทั้งสองฝั่งชายแดน

การสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่หลุดออกมา ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นเรื่องจริงทั้งจากฮุนเซน และผู้นำไทย แสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีของไทยได้บอกกับฮุนเซน ซึ่งเธอเรียกว่าลุง ว่าเธออยู่ภายใต้แรงกดดันภายในประเทศ และขอร้องให้เขาไม่ฟัง ‘ฝ่ายตรงข้าม’ ซึ่งรวมถึงแม่ทัพภาคที่ 2 ด้วย

“ตอนนี้ ทางนั้นเค้าแค่อยากดูเท่ ก็จะพูดอะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ แต่จริงๆ สิ่งที่เราต้องการคือความสงบสุข” นายกฯ แพทองธาร กล่าวกับฮุนเซนผ่านล่ามในคลิปเสียงที่หลุดออกมา โดยอ้างถึงแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย

ในเวลาต่อมา ผู้นำไทยได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าการสนทนาของเธอกับฮุนเซนเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเจรจา และเธอไม่มีปัญหากับกองทัพ และยังระบุว่าจะไม่คุยกับฮุนเซนเป็นการส่วนตัวอีกเพราะมีปัญหาด้านความไว้ใจ

ฮุนเซนกล่าวว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาดังกล่าวมาจากนักการเมืองคนหนึ่งใน 80 คน ที่เขาได้แบ่งปันไฟล์เสียงด้วย

ฮุนเซนเป็นผู้นำกัมพูชามานานเกือบ 4 ทศวรรษ และยังคงรักษาอิทธิพลมาตั้งแต่ส่งมอบอำนาจให้กับลูกชายของเขา นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ในปี 2566

ทั้งสองรัฐบาลมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จากความช่วยเหลือจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างฮุนเซน และอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นบิดาของแพทองธาร ซึ่งอดีตผู้นำทั้งสองต่างยังคงมีบทบาททางการเมือง

แต่การรั่วไหลของข้อมูลดังกล่าวอาจสั่นคลอนความสัมพันธ์ และอาจเพิ่มการคาดเดาในไทยว่าแพทองธารและกองทัพมีความเห็นไม่ตรงกันว่าจะตอบสนองต่อวิกฤตชายแดนกับกัมพูชาอย่างไร

วาทกรรมของกัมพูชารุนแรงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยฮุนเซนกล่าวโทษกลุ่มหัวรุนแรงในไทยและกองทัพว่าเป็นผู้ก่อให้เกิดความตึงเครียด และกล่าวว่ารัฐบาลของแพทองธารไม่สามารถควบคุมกองทัพได้ในแบบที่รัฐบาลกัมพูชาทำได้

ด้านพล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ที่ดูแลชายแดนด้านตะวันออก กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า นายกฯ แพทองธารได้โทรศัพท์หาเขาเพื่ออธิบายเรื่องการสนทนากับฮุนเซนดังกล่าวแล้ว

“ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ” พล.ท.บุญสิน กล่าว

การเผชิญหน้าที่ยาวนานหลายสัปดาห์นี้เกิดขึ้นหลังจากเกิดการปะทะกันที่ชายแดนเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย ทั้งสองประเทศต่างเรียกร้องให้อยู่ในความสงบ ขณะที่ให้คำมั่นว่าจะปกป้องอธิปไตยของตนเหนือพื้นที่ชายแดนทางบกยาว 820 กิโลเมตร ที่บางส่วนยังไม่มีการปักปันเขตแดน

ความพยายามในการยุติปัญหาดังกล่าวล้มเหลว โดยกัมพูชาได้ดำเนินการตามคำมั่นสัญญาเมื่อวันอาทิตย์ในการยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ที่ไทยระบุว่าไม่ยอมรับเขตอำนาจศาล

ในวันพุธ (18) กระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุว่าไทยละเมิดอธิปไตยอีกครั้งด้วยการบินโดรน ขุดสนามเพลาะ และเสริมกำลังทหาร และในวันเดียวกันนี้ ชาวกัมพูชาหลายพันคนได้เข้าร่วมการเดินขบวนที่จัดโดยรัฐบาลในกรุงพนมเปญ เพื่อแสดงพลังสนับสนุนรัฐบาลพร้อมโบกธงชาติและถือรูปของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และอดีตผู้นำฮุนเซน.