เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยวันนี้ (13) ว่าเครื่องบินของกองทัพพม่าที่ตกในเขตสงครามในสัปดาห์นี้ ได้คร่าชีวิตผู้คนไป 4 ราย หลังจากเครื่องบินพุ่งใส่หมู่บ้านที่มีพลเรือนกำลังอาศัยหลบภัยจากการสู้รบ
พม่าเผชิญกับสงครามกลางเมืองมาตั้งแต่กองทัพโค่นล้มรัฐบาลประชาธิปไตยในปี 2564 และในปัจจุบันมีประชาชนมากกว่า 3 ล้านคนต้องพลัดถิ่นที่อยู่เนื่องจากการสู้รบตามการระบุของสหประชาชาติ
กองกำลังติดอาวุธต่อต้านการรัฐประหารได้อ้างว่าพวกเขาเป็นฝ่ายยิงเครื่องบินลำดังกล่าวตกเมื่อวันอังคาร หลังจากสู้รบอย่างดุเดือดเป็นเวลา 4 วัน ในภาคสะกาย ขณะที่กองทัพพม่าระบุว่าเครื่องบินตกเป็นเพราะเครื่องยนต์ขัดข้องกะทันหัน
ซอ เต๊ต เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจากพื้นที่ที่กลุ่มติดอาวุธยึดครอง ระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 4 ราย หลังจากเครื่องบินลำดังกล่าวพุ่งชนอาคาร 5 หลัง ในหมู่บ้านซาปาซัต
“พวกเขาเสียชีวิตในบ้านตัวเอง สามคนในจำนวนนั้นเป็นผู้พลัดถิ่นภายในประเทศที่เข้ามาพักหลบภัยในหมู่บ้าน” ซอ เต๊ต กล่าว
การวิเคราะห์ภาพในโซเชียลมีเดียของจุดเกิดเหตุโดยศูนย์ข้อมูลที่มีสำนักงานในอังกฤษระบุว่าเครื่องบินลำเกิดเหตุเป็นเครื่องบิน Chengdu F-7 ที่นั่งเดียว ที่ผลิตในจีน
กองทัพพม่าสูญเสียดินแดนจำนวนมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่ากองทัพอากาศของพม่าที่ได้รับการสนับสนุนจากจีนและรัสเซียเป็นกำลังสำคัญในการต่อต้านฝ่ายตรงข้าม
กองทัพและฝ่ายตรงข้ามบางส่วนได้ให้คำมั่นที่จะสงบศึกชั่วคราวในเดือนนี้ ในขณะที่ประเทศกำลังฟื้นตัวจากแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.7 แมกนิจูด เมื่อเดือนมี.ค. ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,800 คน
แต่กองทัพปลดปล่อยประชาชน กลุ่มคอมมิวนิสต์ที่ลุกขึ้นสู้หลังการรัฐประหาร กล่าวว่ากลุ่มได้ยิงเครื่องบินลำหนึ่งตก ห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ไปทางตะวันตกราว 130 กิโลเมตร
ด้านทีมข้อมูลของรัฐบาลทหารระบุว่าเครื่องบินลำดังกล่าวอยู่ระหว่างการฝึกและเกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิค.