"ท่าเรือน้ำลึกเจ้าก์ผิ่ว" เดินหน้าสร้างต่อ ท่ามกลางการรบหนักใน"ยะไข่"

MGR Online - รัฐมนตรีพาณิชย์เมียนมายืนยัน การก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกเจ้าก์ผิ่วไม่หยุดชะงัก ยังคงเดินหน้าสร้างต่อ แม้กองทัพอาระกันจะบุกโจมตีทหารพม่าอย่างหนักในพื้นที่โดยรอบโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของจีนในรัฐยะไข่

วานนี้ (12 มิ.ย.) สำนักข่าว DVB รายงานว่า อู ทูนโอง รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ เมียนมา ได้กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่กรุงเนปิดอ เมื่อวันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 โดยยืนยันว่า การก่อสร้างท่าเรือน้ำลึก ที่เมืองเจ้าก์ผิ่ว รัฐยะไข่ ยังคงเดินหน้า ไม่หยุดชะงัก แม้ว่าสถานการณ์ในพื้นที่โดยรอบในเมืองเจ้าก์ผิ่ว ยังคงมีการสู้รบกันอย่างหนักระหว่างกองทัพพม่ากับกองทัพอาระกัน(AA)

DVB อ้างข้อมูลจากสำนักข่าว Narinjara ว่า เมื่อวันอังคารที่ 10 มิถุนายน กองทัพพม่าได้เสริมกำลังพลหลายร้อยนายเข้ามาในเมืองเจ้าก์ผิ่ว โดยยกพลทางเรือจากเมืองซิตต่วยลงมายังฐานทัพเรือธัญญวดี ในเจ้าก์ผิ่ว

กองทัพอาระกันยังคงบุกโจมตีกองบัญชาการกองพัน 32 ของหน่วยตำรวจพม่า ที่ตั้งอยู่ห่าง 3 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านบะละจูน ตำบลโกง-จเวน ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานีก๊าซธรรมชาติบนบก(Shwe Onshore Gas Terminal : OGT) ของโครงการฉ่วยก๊าซ(Shwe Gas) ของจีน

ฉ่วยก๊าซเป็นโครงการท่อส่งก๊าซและน้ำมันจากอ่าวเบงกอล ที่วางพาดผ่านพื้นที่เมียนมา จากเมืองเจ้าก์ผิ่ว เข้าไปในจีนที่ชายแดนรัฐฉาน นอกจากฉ่วยก๊าซแล้ว ในเมืองเจ้าก์ผิ่วซึ่งมีบทบาทสำคัญทางยุทธศาสตร์ของข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง(BRI) เป็นปลายทางของระเบียงเศรษฐกิจจีน-เมียนมา และเป็นทางออกสู่มหาสมุทรอินเดียให้กับจีน รัฐบาลจีนจึงมีการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการในเมืองเจ้าก์ผิ่ว ได้แก่ ท่าเรือน้ำลึกและเขตเศรษฐกิจพิเศษ

ในเมืองเจ้าก์ผิ่ว มีบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนของจีนหลายแห่งเข้ามาตั้งอยู่เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้กับโครงการเหล่านี้ เจ้าหน้าที่เกือบทั้งหมดของบริษัทรักษาความปลอดภัย คืออดีตทหารที่เคยประจำการอยู่ในกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ที่ผ่านมาอดีตทหารจีนเหล่านี้ได้ช่วยทหารพม่าสู้รบกับกองทัพอาระกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ทหารอาระกันบุกเข้ามาในพื้นที่โครงการลงทุนของจีนที่ตั้งอยู่ในเมืองเจ้าก์ผิ่ว

ก่อนหน้านี้ กองทัพอาระกันเคยประกาศว่า การสู้รบในรัฐยะไข่จะไม่ให้มีผลกระทบต่อโครงการลงทุนของจีน และกองทัพอาระกันพร้อมจะดูแลความปลอดภัยให้กับโครงการเหล่านี้

แต่ปรากฏว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา กองทัพอาระกันได้บุกโจมตีอย่างหนักในพื้นที่โดยรอบสถานที่ก๊าซในหมู่บ้านบะละจูน ทำให้วันที่ 23 พฤษภาคม ผู้บริหารโครงการฉ่วยก๊าซจึงตัดสินใจหยุดการทำงาน และอพยพพนักงานไปอยู่ในกรุงย่างกุ้ง

ฉ่วยก๊าซเป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่างบริษัทพลังงานของเมียนมา จีน เกาหลีใต้ และอินเดีย นอกจากเจ้าหน้าที่ชาวจีนแล้ว ในโครงการนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ชาวเกาหลีใต้กับอินเดียทำงานด้วยอีกเป็นจำนวนมาก

ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2566 กองทัพอาระกันซึ่งได้จับมือกับกองทัพโกก้าง(MNDAA) และกองทัพตะอั้ง(TNLA) รวมตัวกันในนามพันธมิตรภาคเหนือ ได้เปิดปฏิบัติการที่ใช้ชื่อว่า 1027 บุกโจมตีฐานที่มั่นของทหารพม่าและยึดเมืองต่างๆที่อยู่ในแนวระเบียงเศรษฐกิจจีน-เมียนมา ในภาคเหนือของรัฐฉาน

อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา กองทัพโกก้างได้คืนเมืองล่าเสี้ยวให้กับกองทัพพม่าไปแล้ว และเตรียมจะส่งมอบเมืองแสนหวีคืนแก่กองทัพพม่าอีก 1 แห่ง ส่วนกองทัพตะอั้ง ก็มีรายงานว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมส่งมอบเมืองหนองเขียวคืนแก่กองทัพพม่า หลังทั้ง 2 กองทัพถูกกดดันอย่างหนักในทุกรูปแบบจากทางการจีน

ส่วนกองทัพอาระกันซึ่งได้ฉีกข้อตกลงหยุดยิงที่ทำไว้กับกองทัพพม่า โดยเริ่มบุกโจมตีฐานที่ตั้งของทหารพม่าที่กระจายอยู่ตามเมืองต่างๆของรัฐยะไข่ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2566

ปัจจุบัน กองทัพอาระกันสามารถยึดเมืองต่างๆในรัฐยะไข่ไว้ได้แล้ว 14 เมือง เหลือเพียง 3 เมืองที่ยังคงมีการสู้รับกันอยู่ คือ เมืองเจ้าก์ผิ่ว เมืองซิตต่วย และเมืองมานอ่อง

เมืองซิตต่วย นอกจากเป็นเมืองหลวงของรัฐยะไข่แล้ว ยังเป็นที่ตั้งโครงการขนส่งหลายรูปแบบคาลาดาน โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของอินเดีย ที่เชื่อมต่อเส้นทางขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือกัลกัตตา และรัฐมิโซรัม ผ่านทางทะเล ทางบก และทางแม่น้ำคาลาดาน

ส่วนเมืองมานอ่องเป็นเกาะ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเจ้าก์ผิ่ว และอยู่ตรงข้ามกับเมืองตองโก๊ะ