เอเอฟพี - สภาแห่งชาติเวียดนามได้อนุมัติแผนการควบรวมจังหวัดและเมืองต่างๆ และเลิกจ้างเจ้าหน้าที่รัฐเกือบ 80,000 ตำแหน่ง ที่เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปโครงสร้างการบริหารครั้งสำคัญของประเทศคอมมิวนิสต์แห่งนี้
สมาชิกรัฐสภาลงมติลดการบริหารระดับจังหวัดและเมืองต่างๆ จาก 63 แห่ง เหลือเพียง 34 แห่ง เนื่องจากรัฐบาลกำลังพิจารณาลดรายจ่ายของรัฐ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลลดจำนวนกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ จาก 30 แห่ง เหลือ 22 แห่งในเดือนก.พ. ส่งผลให้มีการเลิกจ้าง 23,000 ตำแหน่ง
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้สะท้อนถึงความพยายามของผู้นำประเทศที่จะตัดลดการใช้จ่ายของรัฐบาล แต่ขณะเดียวกันก็สร้างความไม่สบายใจในให้กับคนส่วนหนึ่งในระบบคอมมิวนิสต์ ที่การทำงานให้กับรัฐนั้นหมายถึงการมีงานทำตลอดชีวิต
โต เลิม ผู้นำสูงสุดของเวียดนาม กล่าวว่าจำเป็นต้องปรับโครงสร้างการบริหารประเทศครั้งใหญ่ หากต้องการบรรลุการพัฒนาที่รวดเร็ว มั่นคง และยั่งยืน
ในการลงมติวันนี้ (12) สภาได้รับรองแผนงานของรัฐบาลด้วยคะแนนเสียง 461 ต่อ 1 เสียง โดยมีผู้งดออกเสียง 3 ราย
จากการรับรองครั้งนี้ มีเพียง 11 จังหวัดและเมืองเท่านั้นที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากการปฏิรูป ส่วนที่เหลือถูกยุบรวมกัน
สื่อของรัฐรายงานอ้างคำกล่าวของรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยระบุว่า การปฏิรูปครั้งนี้ถือเป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่นับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศในปี 2488 และจะมีเจ้าหน้าที่ 79,339 คนถูกปรับเปลี่ยน ลาออก หรือเกษียณอายุก่อนกำหนดหลังจากการควบรวม
เจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดคนหนึ่งกล่าวกับเอเอฟพีว่าเขาตกใจและเสียใจ เนื่องจากเขาจะต้องออกจากตำแหน่งหลังทำงานมานานกว่า 30 ปี
“ผมอาจได้รับเงินชดเชยหลายพันล้านด่ง แต่ผมไม่มีความสุขเลย ตอนนี้ผมไม่รู้จะทำอะไร ผมคิดว่าผมยังทำงานได้” สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์วัย 58 ปี กล่าว
โต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์และบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศกล่าวว่า หน่วยงานบริหารที่ถูกปรับปรุงใหม่จะต้องเปลี่ยนจากการบริหารจัดการเชิงรับเป็นการให้บริการประชาชนเชิงรุก
“ผมคิดว่าการควบรวมเป็นเรื่องดีสำหรับทุกคน และผมสนับสนุนอย่างเต็มที่” เหวียน ถั่ง ลอย อายุ 52 ปี จากจ.ท้ายบิ่ง ทางภาคเหนือ ที่กำลังจะถูกควบรวม กล่าว
“แต่ผมรู้สึกเศร้าที่ชื่อจังหวัดบ้านเกิดของผมที่มีมานานหลายชั่วอายุคนจะต้องหายไป และก็รู้สึกแปลกที่จะต้องบอกว่าผมมาจากจ.หุ่งเอียน” ลอย กล่าวกับเอเอฟพี
ข้อมูลของรัฐบาลระบุว่า เมืองและจังหวัดทั้งหมดจะประกาศผู้นำใหม่ในวันที่ 30 มิ.ย. และเริ่มดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบในช่วงต้นเดือนก.ค.
ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า สภาแห่งชาติจะลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญแห่งชาติฉบับแก้ไข ภายใต้โครงสร้างการบริหาร 3 ระดับของประเทศที่ประกอบด้วยจังหวัด อำเภอ และตำบล จะลดลงเหลือเพียง 2 ระดับ โดยระดับอำเภอจะถูกยกเลิก และขยายระดับตำบล
เวียดนาม ศูนย์กลางการผลิตระดับโลกมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 7.1% ในปี 2567 และตั้งเป้าที่จะเติบโต 8% ในปีนี้ มีเป้าหมายที่จะเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางภายในปี 2573
แต่เศรษฐกิจขึ้นอยู่กับการส่งออก และอัตราภาษี 46% ของทรัมป์ที่ขู่จะเรียกเก็บจากเวียดนามทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเจรจาเพื่อลดภาษีดังกล่าว
การปฏิรูปโครงสร้างของรัฐบาลเกิดขึ้นหลังจากการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตอย่างกว้างขวางในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่ทำให้นักธุรกิจและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐถูกดำเนินคดีแล้วหลายสิบคน รวมทั้งประธานาธิบดี 2 คน และรองนายกรัฐมนตรี 3 คน ตั้งแต่ปี 2564
การปฏิรูปภายใต้การนำของโต เลิม เกิดขึ้นหลังจากช่วงเวลายาวนานของการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ โดยรัฐบาลเน้นย้ำถึงเสถียรภาพและความสงบเพื่อสร้างชื่อเสียงของความสามารถในการการคาดการณ์ได้ที่นักลงทุนต่างชาติมองว่าน่าดึงดูด.