รัฐบาลทหารพม่าซัดมติสหประชาชาติมีแรงจูงใจทางการเมืองประเด็นสิทธิแรงงาน

เอเอฟพี - รัฐบาลทหารพม่าตอบโต้มติของสหประชาชาติที่มีเป้าหมายที่จะควบคุมการละเมิดแรงงานในประเทศ โดยระบุว่ามติดังกล่าวมีแรงจูงใจทางการเมือง

องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ได้อ้างถึงมาตรา 33 ของรัฐธรรมนูญของตนที่อาจกำหนดให้มีการคว่ำบาตรกับกองทัพที่เข้ายึดอำนาจในการรัฐประหารในปี 2564 ได้ โดยหน่วยงานด้านแรงงานของสหประชาชาติระบุว่า ประเทศต่างๆ ควรทำให้แน่ใจว่าความสัมพันธ์กับพม่านั้นจะ ‘ไม่สนับสนุน อำนวยความสะดวก หรือยืดเวลาการละเมิดสิทธิแรงงานในความเคารพต่อเสรีภาพในการสมาคมและแรงงานบังคับ’

หน่วยงานด้านแรงงานของสหประชาชาติยังเรียกร้องให้หน่วยงานระหว่างประเทศรายงานกิจกรรมต่างๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่สนับสนุนหรือส่งเสริมการละเมิดสิทธิแรงงานภายใต้รัฐบาลทหารของพม่า

กระทรวงแรงงานของพม่าได้ออกคำแถลงตอบโต้มติดังกล่าวว่าได้รับการรับรองโดยไร้ซึ่งความเป็นกลางและความเป็นธรรม และอิงกับแนวทางที่มีแรงจูงใจทางการเมือง

การสอบสวนของสหประชาชาติเกี่ยวกับพม่าในเดือนต.ค.2566 ได้เรียกร้องให้ผู้ปกครองทหารของประเทศยุติการใช้แรงงานบังคับในกองทัพและหยุดความรุนแรงทั้งหมดต่อสหภาพแรงงาน

การสอบสวนพบว่ามีการละเมิดอนุสัญญาแรงงานบังคับระหว่างประเทศและเสรีภาพในการสมาคมในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้

มติที่ผ่านการรับรองเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมาในการประชุมแรงงานระหว่างประเทศครั้งที่ 113 ของ ILO ที่เจนีวา ระบุว่ารัฐบาลทหารของพม่าไม่ได้แสดงสัญญาณใดๆ ของการยอมรับอย่างมีนัยสำคัญถึงคำแนะนำในรายงานประจำปี 2566

แต่พม่ากล่าวว่าพวกเขาดำเนินการตามคำแนะนำอย่างแข็งขันและมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง และกล่าวหาว่า ILO เพิกเฉยต่อความพยายามของตน

สมาพันธ์สหภาพแรงงานระหว่างประเทศ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่านับเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าหนึ่งศตวรรษของ ILO ที่มีการอ้างถึงมาตรา 33

พม่าอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายนับตั้งแต่กองทัพขับไล่ผู้นำพลเรือนที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยออกจากอำนาจในการรัฐประหารในเดือนก.พ. 2564.