MGR Online - ย้อนอดีตปี 2560 ที่เขมรเคยมีปัญหาชายแดนกับลาว ใช้มุกเดิมให้สื่อโจมตี หาว่าลาวรุกล้ำดินแดนก่อน แต่เจอนายกฯลาวเอาจริง สั่งปิดด่านพร้อมส่งทหารตรึงกำลัง สุดท้าย ฮุนเซ็นต้องบินไปเจรจา จับมือกับทองลุน แถลงข่าวต่อหน้าสื่อ บอกว่า 2 ฝ่าย ตกลงกันได้แล้ว
ปัญหาชายแดนที่ฝ่ายกัมพูชามักตีขลุมอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนและกล่าวหาประเทศเพื่อนบ้านว่าเป็นฝ่ายรุกล้ำเข้าไปก่อน ไม่ใช่เคยเกิดกับประเทศไทยเป็นครั้งแรก แต่กับ สปป.ลาว เพื่อนร่วมอุดมการณ์ในพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีนก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วเช่นกัน ในยุคที่กัมพูชามีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อฮุนเซ็น
ระหว่างวันที่ 4-6 เมษายน 2560 ได้ความตึงเครียดตามแนวชายแดนลาว-กัมพูชา ถึงขั้นที่ทางการลาวต้องสั่งปิดพรมแดน และกองทัพประชาชนลาวต้องส่งกำลังทหารไปประจำการบริเวณโดยรอบบริเวณที่เกิดข้อพิพาท ซึ่งได้แก่จุดผ่านแดนเวินคาม-โอสวาย ระหว่างแขวงจำปาสักกับจังหวัดสตึงแตรง
ลาวและกัมพูชามีพรมแดนติดต่อกันยาว 533 กิโลเมตร มีจุดผ่านแดนระหว่าง 2 ประเทศรวม 145 จุด ช่วงที่เกิดข้อพิพาท มีจุดผ่านแดน 121 จุด หรือ 83% ที่ได้กำหนดเส้นแบ่งเขตแดนชัดเจนแล้ว ส่วนที่เหลืออีก 17% อยู่ระหว่างการสำรวจและปักปัน ซึ่งจุดผ่านแดนเวินคาม-โอสวายก็อยู่ในกลุ่มหลัง
ก่อนหน้าเกิดข้อพิพาทครั้งนี้ไม่นาน เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2560 ลาวและกัมพูชาเพิ่งมีพิธีเปิดจุดผ่านแดน"หนองนกเขียน-ตราเบียงเกรียน"เป็นด่านสากลแห่งแรกของทั้ง 2 ประเทศ โดยมีนายกรัฐมนตรีทองลุน สีสุลิดของลาว และนายกรัฐมนตรีฮุนเซ็นของกัมพูชา เดินทางไปเปิดอาคารที่ทำการด่านด้วยตนเอง
จุดผ่านแดนเวินคาม-โอสวาย บริเวณที่เกิดข้อพิพาทอยู่ไม่ไกลจากด่านสากลหนองนกเขียน-ตราเบียงเกรียนมากนัก กรณีพิพาทเกิดขึ้นเนื่องจาก 2 ฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้ถึงจุดที่จะกำหนดให้เป็นเส้นแบ่งเขตแดนอย่างเป็นทางการ
เดือนกุมภาพันธ์ 2560 หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ มีรายงานข่าวกล่าวหาว่าลาวได้ส่งกำลังทหารประมาณ 400 ข้ามฝั่งเข้าไปในเขตกัมพูชา และสั่งให้คนงานกัมพูชาที่กำลังก่อสร้างถนนเข้าไปบริเวณนั้นหยุดทำงาน โดยอ้างว่าได้ก่อสร้างกินพื้นที่เข้าไปในเขตแดนลาว
ในทางกลับกัน สื่อกัมพูชากลับกล่าวหาฝ่ายลาวว่าได้นำคนงานเข้าไปก่อสร้างบ้านพักของตำรวจชายแดนในบริเวณที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าเป็นพื้นที่ของตน
วันที่ 31 มีนาคม 2560 มีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารท้องถิ่นเวินคามและโอสวายเพื่อหารือเรื่องเส้นแบ่งเขตแดน แต่การประชุมไม่ได้ข้อสรุป
เจ้าหน้าที่ลาวได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุเอเซียเสรี ถึงกรณีที่สื่อกัมพูชากล่าวหาว่าลาวส่งทหาร 400 นาย ข้ามแดนไปสั่งให้คนงานหยุดการสร้างถนนว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
วันที่ 4 เมษายน 2560 ทางการลาวได้สั่งปิดจุดผ่านแดนเวินคาม-โอสวาย พร้อมได้ส่งกำลังทหารเข้าไปประจำการในบริเวณนี้โดยทันที
หลังฝ่ายลาวแสดงท่าทีว่าเอาจริงกับความตึงเครียดในพื้นที่ ฝ่ายบริหารท้องถิ่นฝั่งโอสวายจึงได้มาเจรจากับฝ่ายลาว เพื่อลดความร้อนแรงของสถานการณ์ และนำปัญหานำเสนอขึ้นสู่ระดับรัฐบาลของ 2 ประเทศ
ระหว่างเดือนเมษายน-กรกฎาคม 2560 ข่าวเกี่ยวกับกรณีพิพาทชายแดนของลาวและกัมพูชาเงียบไป
วันที่ 12 สิงหาคม 2560 นายกรัฐมนตรีฮุนเซ็นบินไปนครหลวงเวียงจันทน์เพื่อร่วมประชุมกับนายทองลุน สีสุลิด ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เรื่องข้อพิพาทเวินคาม-โอสวายโดยเฉพาะ หลังเสร็จสิ้นการประชุม 2 นายกรัฐมนตรีได้ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนโดยใช้ภาษาการทูตระบุว่า ทั้ง 2 ประเทศได้ตกลงที่จะแก้ปัญหาชายแดนร่วมกัน ด้วยความเอาใจใส่ และอย่างสันติ เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกันด้วยกำลัง
โดยนายกรัฐมนตรีฮุนเซ็นได้สั่งให้หยุดการก่อสร้างถนนเข้าไปในบริเวณที่เกิดข้อพิพาท พร้อมถอนทหารทั้งหมดออกจากบริเวณดังกล่าว ขณะที่ฝ่ายลาวตกลงจะถอนทหารบางส่วนกลับเข้ากรมกอง แต่ยังคงทหารไว้ในพื้นที่อีกบางส่วน
อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่า นายกรัฐมนตรีทองลุน สีสุลิด ของลาว ใช้เงื่อนไขใดที่สามารถบีบให้นายกรัฐมนตรีฮุนเซ็นต้องยอมบินไปเจรจาด้วยในครั้งนั้น
