รอยเตอร์ - ดุลการค้าของเวียดนามกับสหรัฐฯ ขยายตัวอย่างรวดเร็วในเดือนพ.ค. เนื่องจากการส่งออกเพิ่มขึ้น และการนำเข้าจากจีนก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ความเคลื่อนไหวที่อาจส่งผลให้ปัญหาที่มีกับวอชิงตันแย่ลง และอาจกระทบต่อความพยายามของฮานอยที่จะหลีกเลี่ยงภาษีของสหรัฐฯ
ข้อมูลการค้าจากสหรัฐฯ ยังแสดงให้เห็นว่าการเกินดุลการค้าของเวียดนามแซงหน้าเม็กซิโกในเดือนเม.ย. ตามหลังเพียงจีนและสหภาพยุโรปเท่านั้น
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ให้คำมั่นว่าจะลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ กับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ ที่เผชิญกับภาษีตอบโต้ในอัตราสูงสุดที่ 46% หากไม่สามารถเจรจาข้อตกลงได้ก่อนที่การระงับเรียกเก็บภาษีจะสิ้นสุดลงในช่วงต้นเดือนก.ค.นี้
แม้ฮานอยจะพยายามและให้คำมั่นว่าจะตอบสนองความต้องการของวอชิงตัน แต่การเกินดุลยังคงขยายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ส่งออกเร่งส่งสินค้าของตนไปสหรัฐฯ ก่อนที่อัตราภาษีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้
ลีฟ ชไนเดอร์ รองประธานคณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย หอการค้ายุโรปในเวียดนาม ระบุว่าตัวเลขใหม่นี้อาจเพิ่มอุปสรรคในการเจรจาและเพิ่มแรงกดดันต่อเวียดนามให้ต้องผ่อนปรนเพิ่มเติมเพื่อบรรลุข้อตกลง
ข้อมูลของรัฐบาลเวียดนามระบุว่า การเกินดุลกับสหรัฐฯ พุ่งขึ้นเป็น 12,200 ล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นเกือบ 42% จากปีก่อนหน้า และสูงกว่าเดือนเม.ย. ถึง 17% นอกจากนี้การส่งออกไปยังสหรัฐฯ ยังเพิ่มขึ้นประมาณ 42% จากปีก่อนหน้า สู่ระดับสูงสุดหลังการระบาดของโควิดที่ 13,800 ล้านดอลลาร์
ชไนเดอร์ตั้งข้อสังเกตว่าที่การส่งออกของเวียดนามเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเร่งส่งออกล่วงหน้าก่อนเรียกเก็บภาษี โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ การเกินดุลแตะเกือบ 50,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28.5% และทำให้เวียดนามอยู่ในเส้นทางของการเกินดุลมากกว่าปีที่แล้ว
ส่วนการนำเข้าจากจีนของประเทศยังสร้างสถิติใหม่หลังการระบาดของโควิดที่ 16,200 ล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อน
เวียดนามเป็นที่ตั้งของโรงงานการผลิตขนาดใหญ่ของบริษัทข้ามชาติของสหรัฐฯ เช่น Apple Intel และ Nike และยังเป็นที่ตั้งของบริษัทจีนจำนวนมากที่มักเป็นซัปพลายเออร์ให้กับบริษัทของสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวหาว่าเวียดนามถูกใช้เป็นจุดส่งสินค้าจีนไปยังสหรัฐฯ พวกเขากล่าวอ้างว่าสินค้าบางรายการติดป้าย ‘Made in vietnam’ แม้ว่าจะไม่มีการเพิ่มมูลค่าหรือเพิ่มมูลค่าไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ส่งออกจีนเลี่ยงภาษีในอัตราสูงของสหรัฐฯ ต่อสินค้าของตนได้
สหรัฐฯ ได้ส่งรายการคำร้องจำนวนมากถึงเวียดนามในการเจรจาภาษี ที่รวมถึงข้อเรียกร้องที่อาจบังคับให้เวียดนามต้องลดการพึ่งพาการนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมจากจีน ตามการระบุของแหล่งข่าว
ภายใต้แรงกดดันของสหรัฐฯ ฮานอยได้เริ่มดำเนินการปราบปรามการขนถ่ายสินค้าผิดกฎหมาย ที่ส่วนใหญ่มาจากจีน และยังแสดงซ้ำหลายครั้งถึงความเต็มใจที่จะลดอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี และนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น รวมถึงเครื่องบิน ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และพลังงาน แม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศสัญญาซื้อใดๆ
ตัวเลขการค้าโดยรวมของเวียดนามกับโลกได้แสดงให้เห็นว่าการส่งออกในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อนหน้า เป็น 39,600 ล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 14% ที่ 39,000 ล้านดอลลาร์
ข้อมูลของรัฐบาลเวียดนามยังแสดงให้เห็นว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 9.4% จากปีก่อน ขณะที่ราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 3.24% และยอดขายปลีกเพิ่มขึ้น 10.2%
การลงทุนจากต่างประเทศในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค. เพิ่มขึ้น 7.9% ที่ 8,900 ล้านดอลลาร์ ขณะที่คำมั่นสัญญาว่าจะลงทุนจากต่างประเทศในช่วงเวลาดังกล่าวพุ่งขึ้น 51.2% ที่ 18,400 ล้านดอลลาร์.