รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ได้แจ้งต่อเวียดนามว่าการขาดดุลการค้ากับเวียดนามนั้นเป็นปัญหาสำคัญและไม่สามารถให้ดำเนินต่อไปได้ ขณะที่ทั้งสองประเทศกำลังเจรจากันเรื่องภาษีศุลกากร
เวียดนามกำลังเจรจาหารือกับสหรัฐฯ ที่เป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของประเทศ เพื่อโน้มน้าวให้ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มองในทางที่ดีเกี่ยวกับการเกินดุลการค้าอย่างมหาศาลของประเทศกับสหรัฐฯ หลังทรัมป์ประกาศในเดือนเม.ย. เรียกเก็บภาษีตอบโต้ 46% กับสินค้าของเวียดนาม ที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนก.ค.
เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวในการประชุมกับรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังเวียดนามว่า เวียดนามต้องดำเนินมาตรการเพื่อปราบปรามการขนถ่ายสินค้าผิดกฎหมายและการฉ้อโกงทางการค้ารูปแบบอื่นๆ สำนักข่าวเวียดนามรายงานวันนี้ (16)
ฝ่ายเวียดนามได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยอำนวยความสะดวกให้เวียดนามในการนำเข้าผลิตภัณฑ์ไฮเทคของอเมริกัน ที่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะลดการขาดดุลการค้า ที่เกินกว่า 123,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีก่อน
“เวียดนามมีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นจุดแข็งของสหรัฐฯ ในภาคพลังงาน เทคโนโลยีขั้นสูง การบิน เครื่องจักรและอุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์เกษตร” รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังเวียดนาม ระบุ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ไม่ได้ตอบกลับคำขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานดังกล่าวจากรอยเตอร์
เพื่อลดการเกินดุลการค้ากับวอชิงตัน ฮานอยได้ใช้มาตรการหลายอย่างเมื่อไม่นานนี้ รวมทั้งการลดภาษีสินค้าหลายประเภทที่ส่งไปยังสหรัฐฯ และเพิ่มการปราบปรามสินค้าจีนที่ถูกส่งไปยังสหรัฐฯ ผ่านดินแดนของเวียดนาม
นายกรัฐมนตรีฝ่าม มีง จีง ของเวียดนาม กล่าวว่าการเจรจาภาษีรอบแรกกับสหรัฐฯ เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือน และระบุว่าเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่สหรัฐฯ ตกลงที่จะเจรจาภาษี
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามกล่าวแถลงข่าวประจำวันเมื่อวันพฤหัสฯ ว่า เวียดนามกำลังส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าที่สมดุลและยั่งยืนกับสหรัฐฯ อย่างแข็งขัน
“การเจรจาระหว่างเวียดนามและสหรัฐฯ เกี่ยวกับภาษีตอบโต้สำหรับการส่งออกของเวียดนามกำลังดำเนินการและจะมีการแจ้งข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงในภายหลัง” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม กล่าว.