เอเอฟพี - ชาวพม่ามากกว่า 300 คน หลบหนีเข้าไทยเพื่อหาที่หลบภัย หลังกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์โจมตีทหารพม่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากรัฐบาลทหารประกาศขยายเวลาหยุดยิงหลังเกิดแผ่นดินไหว
พม่าอยู่ในความยุ่งเหยิงวุ่นวายจากการสู้รบที่เกิดขึ้นตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2564 ที่รัฐบาลทหารต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์และกองกำลังต่อต้านสนับสนุนประชาธิปไตย
การโจมตีในวันพุธ (7) ของกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) และองค์กรป้องกันชาติกะเหรี่ยง (KNDO) ที่เป็นพันธมิตร ได้มุ่งเป้าที่ฐานทหารในรัฐกะเหรี่ยง ที่อยู่ห่างจากชายแดนไทยราว 2.5 กิโลเมตร ตามการระบุของฝ่ายไทย
“การโจมตีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการปิดล้อมฐานในระยะใกล้ และใช้โดรนติดอาวุธทิ้งวัตถุระเบิดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน” คำแถลงระบุ
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าจนถึงวันพฤหัสฯ (8) มีชาวพม่า 327 คน ข้ามเข้ามาในฝั่งไทย และพักหลบภัยอยู่ในสถานที่ชั่วคราว 2 แห่ง รวมถึงวัด โดยทหารและตำรวจไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและดูแลความปลอดภัย
ขณะเดียวกัน ทหารไทยได้เพิ่มการลาดตระเวนตามแนวชายแดนในจ.ตาก เพื่อป้องกันสิ่งที่เจ้าหน้าที่ระบุว่าอาจเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยโดยกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ
รัฐบาลทหารของพม่าและกลุ่มติดอาวุธหลากหลายกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลทหารได้ประกาศหยุดยิงหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 28 มี.ค. เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์และการฟื้นฟู แต่การสงบศึกดังกล่าวถูกฝ่าฝืนหลายครั้งจากการโจมตีทางอากาศของรัฐบาลทหาร และการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธ
แผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูดใกล้เมืองมัณฑะเลย์ ทางตอนกลางของประเทศ ได้คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 3,800 คน และทำให้อีกหลายหมื่นชีวิตต้องไร้ที่อยู่อาศัย.