xs
xsm
sm
md
lg

การนำเข้าจากจีน-ส่งออกไปสหรัฐฯ ของเวียดนามพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางความเสี่ยงภาษี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - การนำเข้าจากจีนและส่งออกไปสหรัฐฯ ของเวียดนามพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ทั้งคู่ในช่วงหลังการระบาดของโควิดในเดือนเม.ย. ท่ามกลางการเจรจากับวอชิงตันเพื่อลดการเกินดุลการค้าและการปราบปรามสินค้าจีนที่ส่งไปยังสหรัฐฯ ผ่านดินแดนของเวียดนาม

ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้เผชิญกับความเสี่ยงของการถูกเรียกเก็บภาษี 46% จากการส่งออกไปยังสหรัฐฯ หากทำเนียบขาวยืนยันอัตราภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดการระงับการเก็บภาษีทั่วโลกในเดือนก.ค. ซึ่งสิ่งนี้อาจกระทบต่อรูปแบบการเติบโตของเวียดนาม และส่งผลกระทบต่อบริษัทข้ามชาติที่ส่งออกจากประเทศนี้ เช่น Samsung และ Nike

ฮานอยได้เสนอข้อเสนอหลายอย่างต่อรัฐบาลของทรัมป์เพื่อเลี่ยงการเก็บภาษีในอัตราสูง ที่รวมถึงการปราบปรามการขนถ่ายสินค้าจีนที่ผิดกฎหมายไปยังสหรัฐฯ ผ่านเวียดนาม ที่สินค้าจะได้ประโยชน์จากภาษีที่ลดลงหากระบุว่า ‘ผลิตในเวียดนาม’

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการค้าที่ดึงดูดการวิพากษ์วิจารณ์จากสหรัฐฯ กำลังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ความพยายามของเวียดนามที่จะได้การผ่อนปรนจากสหรัฐฯ ในการเจรจาทางการค้าที่กำลังดำเนินอยู่มีความซับซ้อนขึ้น

รัฐบาลทรัมป์ต้องการลดความไม่สมดุลทางการค้า แต่การเกินดุลของเวียดนามกับสหรัฐฯ ที่เป็นหนึ่งในประเทศที่เกินดุลสูงสุดจากทั่วโลก ได้ขยายตัวเกือบ 25% ในช่วง 4 เดือนจนถึงเดือนเม.ย. เมื่อเทียบปีต่อปี ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติของเวียดนาม

เฉพาะในเดือนมี.ค. เพียงเดือนเดียว เวียดนามเกินดุลเกิน 13,500 ล้านดอลลาร์ ที่เป็นตัวเลขรายเดือนสูงสุดเท่าที่เคยมีมา ตามข้อมูลของสหรัฐฯ

ผู้บริหารอุตสาหกรรมหลายรายระบุว่าผู้ผลิตในเวียดนามกำลังเร่งส่งออกไปยังสหรัฐฯ ก่อนที่จะมีการขึ้นภาษี

ในเดือนเม.ย. การขนส่งไปยังสหรัฐฯ มีมูลค่าเกินกว่า 12,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 34% จากปีก่อน และเป็นมูลค่าสูงสุดที่บันทึกไว้หลังจากการระบาดของโควิด-19 ข้อมูลของศุลกากรเวียดนามระบุ

ท่าเรือน้ำลึกก๋ายแมบ ที่รับผิดชอบสินค้าส่งออกทางทะเลส่วนใหญ่ของประเทศไปยังสหรัฐฯ กำลังประสบกับปริมาณการขนส่งสินค้าไปยังสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูง โซเรน เปเดอร์เซน รองประธานบริษัท SSA Marine ที่ดำเนินการท่าเรือในก๋ายแมบ และเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการท่าเรือรายใหญ่ที่สุดในโลก กล่าว

เขากล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ท่าเรือก๋ายแมบที่เป็นที่ตั้งของบริษัทขนส่งสินค้ารายใหญ่ทั้งหมด รวมถึง Maersk MSC และ COSCO จองเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 26 ลำ สำหรับออกเดินทางรายสัปดาห์ไปยังสหรัฐฯ ในเดือนพ.ค. ถือเป็นสถิติสูงสุดจากค่าเฉลี่ยที่ 20-22 ลำ

“ท่าเทียบเรือตู้คอนเทนเนอร์ส่วนใหญ่ในตอนนี้ดำเนินการเต็มกำลังหรือเกือบเต็มกำลัง” เปเดอร์เซน กล่าว และระบุว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวคาดว่ามาจากความเป็นไปได้ของการเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้น

ในช่วงเวลาเดียวกัน เวียดนามกำลังเร่งนำเข้าจากจีน ที่ยังทำสถิติสูงสุดหลังการระบาดของโควิดในเดือนเม.ย. โดยมีมูลค่าเกินกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลศุลกากร

การส่งออกของเวียดนามไปยังสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้รับแรงหนุนจากการนำเข้าจากจีน โดยการไหลเข้าจากปักกิ่งใกล้เคียงกับมูลค่าและปริมาณของการส่งออกไปยังวอชิงตัน

การนำเข้าสินค้าจีนของเวียดนาม ที่มักจะเป็นส่วนประกอบหรือวัตถุดิบที่ใช้ในโรงงานของเวียดนาม เติบโตขึ้นเกือบ 31% ในเดือนเม.ย. จากปีก่อน การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 8.9% ในช่วงเวลาเดียวกัน

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวหาว่าเวียดนามเป็นเพียงจุดผ่านแดนสำหรับสินค้าที่ผลิตในจีนและส่งออกมายังสหรัฐฯ โดยไม่มีหรือมีมูลค่าเพิ่มในประเทศไม่เพียงพอที่จะติดฉลากว่า ‘Made in Vietnam’

ในการตอบสนองต่อความเห็นดังกล่าว ฮานอยได้เริ่มปราบปรามการจนถ่ายสินค้าผิดกฎหมายในเดือนเม.ย. เพิ่มการควบคุมสินค้าที่นำเข้าและการออกใบรับรองเกี่ยวกับแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์.
กำลังโหลดความคิดเห็น