รอยเตอร์ - กระทรวงการคลังสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ว่า สหรัฐฯ ได้ประกาศคว่ำบาตรนายพลชาวพม่า ลูกชาย 2 คน และกองกำลังติดอาวุธที่เขาเป็นผู้นำ เนื่องจากเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้กับแก๊งหลอกลวงทางไซเบอร์ ค้ามนุษย์ และลักลอบขนสินค้าข้ามพรมแดน
กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า นายพลซอว์ ชิต ตู่ คือตัวการสำคัญในเครือข่ายการหลอกลวงทางไซเบอร์ซึ่งทำกำไรมหาศาล โดยมีชาวอเมริกันเป็นหมาย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีผู้คนหลายแสนคนตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์โดยกลุ่มอาชญากรทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และถูกบังคับให้กับแก๊งหลอกลวงดังกล่าว ตามรายงานของสหประชาชาติ
ตามมาตรการของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ดังกล่าว จะมีการคว่ำบาตรทางการเงินต่อนายพลซอว์ ชิต ตู่ และกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNA)ที่เขาเป็นผู้นำ รวมทั้งลูกชาย 2 คนของเขา คือ ซอว์ ทู เอ มู และซอว์ ชิต ชิต และอายัดทรัพย์สินของสหรัฐฯ ทั้งหมดที่พวกเขาอาจถือครอง และห้ามไม่ให้ชาวอเมริกันทำธุรกิจกับพวกเขา
ก่อนหน้านี้ อังกฤษและสหภาพยุโรปได้ประกาศคว่ำบาตรซอซ์ ชิต ตู่ ไปแล้ว
กองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยงมีกองบัญชาการใหญ่ในเมืองชเว ก๊กโก่ หรือที่เรียกว่า "เขตเศรษฐกิจพิเศษ" ตามแนวชายแดนไทย-เมียนม่า ซึ่ง KNA ได้เช่าที่ดินและให้การคุ้มกันแก่แก๊งค้ามนุษย์ที่หลอกเหยื่อมาแล้วบังคับให้ทำงานต้มตุ๋นทางออนไลน์ แถลงการณ์ระบุ
“ปฏิบัติการหลอกลวงทางไซเบอร์ ที่ดำเนินการโดย KNA สร้างรายได้หลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับเจ้าพ่ออาชญากรและพรรคพวกของเขา ในขณะที่เหยื่อต้องสูญเสียเงินออมที่หามาอย่างยากลำบาก และรู้สึกไม่ปลอดภัย” ไมเคิล ฟอลเคนเดอร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง สหรัฐฯ กล่าว
นายพลซอว์ ชิต ตู่ มีสายสัมพันธ์อันดีกับผู้นำกองทัพพม่า เห็นได้จากเขาได้รับตำแหน่งกิตติมศักดิ์สำหรับ “ผลงานดีเด่น” ที่พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย มอบให้แก่เขาในเดือนพฤศจิกายน 2565 ช่วยให้เขาสร้างอิทธิพลของตัวเองขึ้นมาได้
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรหลายรอบต่อคณะรัฐประหารพม่าและแหล่งรายได้ของพวกเขา นับตั้งแต่กองทัพโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของนางอองซานซูจี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งจุดชนวนให้สงครามกลางเมืองลุกลามบานปลาย
มาตรการคว่ำบาตรเมื่อวันจันทร์ถือเป็นมาตรการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับเมียนมาร์ครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม