เอเอฟพี - วินฟาสต์ (Vinfast) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของเวียดนามเปิดเผยว่าบริษัทมียอดส่งมอบรถยนต์เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าในปี 2567 เทียบกับปีก่อนหน้า แต่ขาดทุนมากกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์ในปีดังกล่าว
ผู้ผลิตยานยนต์ในประเทศรายแรกของประเทศคอมมิวนิสต์แห่งนี้ตั้งเป้าที่จะแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลกอย่าง Tesla แต่ยังคงประสบปัญหาในการเจาะตลาดต่างประเทศ
“สำหรับปี 2567 การส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ 97,399 คัน ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 192% จากปี 2566 ตอกย้ำถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและการตอบรับเชิงบวกของตลาด” วินฟาสต์ระบุในคำแถลง และเสริมว่าบริษัทขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 3,179 ล้านดอลลาร์
หุ้นของวินฟาสต์ผันผวนอย่างรุนแรงตั้งแต่เปิดตัวในตลาด Nasdaq เมื่อเดือนส.ค. 2566 โดยในช่วงหนึ่งราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นจนมีมูลค่าตลาดสูงกว่าบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Ford และ General Motors ก่อนจะร่วงลงอย่างหนัก
วินฟาสต์พยายามที่จะเจาะตลาดเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป และสหรัฐฯ และแคนาดา ด้วยโชว์รูมมากกว่า 100 แห่งทั่วโลก
เมื่อเดือนที่แล้ว อินโดนีเซียกล่าวว่าบริษัทมีแผนที่จะสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 100,000 แห่งทั่วประเทศ
วินฟาสต์กล่าวว่าบริษัทได้จัดส่งรถยนต์ไฟฟ้าล็อตที่ 4 ที่ประกอบด้วยรถยนต์เกือบ 2,500 คัน ไปยังอินโดนีเซียเมื่อต้นเดือนมี.ค. ซึ่งบริษัทมีตัวแทนจำหน่ายในอินโดนีเซีย 22 แห่ง
ประธานของวินฟาสต์กล่าวว่าผลประกอบการประจำปีสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของบริษัทในการนำทางผ่านสภาพแวดล้อมทางการตลาดที่เปลี่ยนแปลงและท้าทาย
“ผลเหล่านี้เน้นย้ำถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเราและแรงผลักดันที่กว้างขึ้นเบื้องหลังการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า” ถวี เล ประธานวินฟาสต์ กล่าว
วินฟาสต์ได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากซีอีโอ ฝ่าม เญิต เวือง บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของประเทศ ตลอดจนวินกรุ๊ป (Vingroup) ที่เป็นบริษัทแม่
บริษัทกล่าวว่าจนถึงขณะนี้เขาได้ให้เงินช่วยเหลือมากกว่า 410 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคำมั่นสัญญาในปี 2567 ที่จะให้เงินช่วยเหลือสูงสุดที่ 2,100 ล้านดอลลาร์ แก่บริษัทและบริษัทย่อยต่างๆ
ในเดือนมี.ค. บริษัท JTA Investment Qatar ที่มีสำนักงานในกรุงโดฮา ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อสำรวจการลงทุน 1,000 ล้านดอลลาร์ในวินฟาสต์ ตามการรายงานของวินกรุ๊ป
วินกรุ๊ปกล่าวว่าความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการขยายตัวทั่วโลกและการพัฒนาทางเทคโนโลยี.