xs
xsm
sm
md
lg

“ทัพโกก้าง” บีบร้านค้าในแสนหวีใช้แต่ภาษาจีน ห้ามเขียนป้ายภาษาไทใหญ่-อังกฤษเด็ดขาด!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ตลาดสดแห่งใหม่ของนักธุรกิจจีนซึ่งเพิ่งเปิดที่บ้านปางล้อ กองทัพโกก้างบังคับให้พ่อค้าแม่ค้าทุกรายย้ายมาขายที่นี่แทนตลาดเก่าที่ถูกสั่งปิด (ภาพจากสำนักข่าว Shan News)
MGR Online - หลังถูกจีนบีบให้คืนล่าเสี้ยวแก่พม่า ถอนกำลังหลักขึ้นไปไว้ที่เมืองแสนหวี กองทัพโกก้างสั่งห้ามร้านค้าทุกแห่งในแสนหวีเขียนชื่อร้านด้วยตัวอักษรไทใหญ่และอังกฤษ บีบให้ใช้แต่ภาษาจีน อนุโลมร้านที่ใช้ป้ายภาษาพม่า แต่บังคับต้องเขียนภาษาจีนกำกับ

สำนักข่าว Shan News และ Tai Freedom รายงานว่า ตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 เป็นต้นมา กองทัพโกก้าง (MNDAA) ได้ออกคำสั่งห้ามธุรกิจ ห้าง ร้าน ทุกแห่งในเมืองแสนหวี รัฐฉานเหนือ เขียนข้อความด้วยตัวอักษรภาษาไทใหญ่และภาษาอังกฤษ บนป้ายชื่อร้าน รวมถึงแผ่นป้ายไวนิลเพื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ทุกประเภทของร้านอย่างเด็ดขาด พร้อมบังคับให้ทุกร้านต้องเปลี่ยนมาใช้แต่อักษรภาษาจีนเท่านั้น


ในคำสั่ง ได้บังคับเจ้าของธุรกิจ-ร้านค้าทุกแห่งที่มีตัวอักษรภาษาไทใหญ่หรือภาษาอังกฤษอยู่บนป้ายชื่อร้าน ต้องรีบแก้ไข โดยเอาตัวอักษรภาษาไทใหญ่และภาษาอังกฤษออก เปลี่ยนมาใช้ตัวอักษรภาษาจีนบนป้ายชื่อร้านแทน ส่วนธุรกิจ-ร้านค้า ที่ใช้ตัวอักษรภาษาพม่าบนป้ายชื่อร้าน อนุโลมให้ยังไม่ต้องเปลี่ยน แต่บังคับให้ต้องเขียนชื่อร้านเป็นตัวอักษรภาษาจีนเพิ่มเข้าไปประกบตัวอักษรภาษาพม่าที่มีอยู่

กองทัพโกก้างได้กำชับว่า เจ้าของธุรกิจ-ร้านค้าใดที่ไม่ยอมเปลี่ยนตัวอักษรบนป้าย หากมีเจ้าหน้าที่ของกองทัพโกก้างไปพบ จะถือเป็นความผิดและเจ้าของร้านต้องถูกลงโทษตามระเบียบของกองทัพโกก้าง

Shan News ยังมีรายงานอีกว่า ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา กองทัพโกก้างได้สั่งปิดร้านค้าทั้งหมดที่ตั้งอยู่ในตลาดสดเดิมของเมืองแสนหวี และบังคับให้พ่อค้า แม่ค้า ย้ายไปขายขายที่ตลาดสดแห่งใหม่ของนักธุรกิจจีนที่มาเปิดอยู่ที่บ้านปางล้อ ห่างจากตลาดแห่งเดิม 2 ไมล์ สร้างความลำบากแก่พ่อค้า แม่ค้า และผู้ที่ต้องการจะไปจับจ่าย ซื้อสินค้า


แสนหวีเป็นเมืองเก่าแก่ของชาวไทใหญ่ ในอดีตมีเจ้าฟ้าไทใหญ่ปกครอง เจ้าฟ้าคนสำคัญ คือ เจ้าคำก่ายน้อย ซึ่งเป็นพระสหายร่วมรบกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในเมืองแสนหวีมีต้นก้ำก่อ หรือบุนนาคเก่าแก่ อายุกว่า 400 ปี 2 ต้น ถูกปลูกไว้คู่กัน ชาวเมืองแสนหวีและชาวไทใหญ่ในรัฐฉานต่างเชื่อว่า ต้นก้ำก่อ 2 ต้นนี้ สมเด็จพระนเรศวรและเจ้าคำก่ายน้อยได้ร่วมกันปลูกไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพของกษัตริย์ทั้ง 2 และเป็นหลักฐานว่าสมเด็จพระนเรศวรเคยเสด็จมาถึงเมืองแสนหวี

เมืองแสนหวีปัจจุบันเป็นเขตปกครองระดับอำเภอขึ้นกับจังหวัดล่าเสี้ยว อยู่ห่างจากตัวเมืองล่าเสี้ยวขึ้นไปทางทิศเหนือ ประมาณ 30 ไมล์ หรือ 48 กิโลเมตร ในตำแหน่งที่เป็นจุดบรรจบระหว่างทางหลวงหมายเลข 3 ที่มาจากด่านชายแดนหมู่เจ้ กับทางหลวงหมายเลข 34 ที่มาจากด่านชายแดนชิงส่วยเหอ

ต้นบุนนาคเก่าแก่ 2 ต้น ที่ชาวเมืองแสนหวีเชื่อว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและเจ้าคำก่ายน้อยมาร่วมปลูกไว้เมื่อกว่า 400 ปีก่อน (ภาพจากเพจ Tai Community Online)
ตามรายงานของ Shan News ระบุว่า กองทัพโกก้างได้เข้ามายึดเมืองแสนหวีเอาไว้ในปฏิบัติการ 1027 รอบแรก เมื่อต้นปี 2567 จากนั้นเริ่มเก็บภาษีจากชาวบ้าน ร้านค้า รวมถึงเปิดบ่อนการพนันขึ้นหลายแห่งในตัวเมือง นอกจากนี้ ยังได้เกณฑ์ชายหนุ่มชาวไทใหญ่เข้าไปเป็นทหารในสังกัดกองทัพโกก้าง ทำให้ชาวไทใหญ่หลายคนต้องทิ้งบ้านเรือน อพยพออกจากเมืองไปอยู่ที่อื่น

หลังจากทางการจีนกดดันกองทัพโกก้างให้ส่งมอบเมืองล่าเสี้ยวที่ยึดไว้ในปฏิบัติการ 1027 รอบ 2 คืนแก่กองทัพพม่า เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ในระหว่างที่กองทัพโกก้างถอนกำลังออกจากเมืองล่าเสี้ยว ทหารโกก้างได้ขนยาและอุปกรณ์การแพทย์จากโรงพยาบาลทหารในมืองล่าเสี้ยวไปไว้ที่โรงพยาบาลประจำเมืองแสนหวีจนหมด ทำให้ 3 วันมานี้ โรงพยาบาลทหารล่าเสี้ยวต้องหยุดให้บริการรักษาผู้ป่วย เพราะไม่มีทั้งยาและอุปกรณ์

ที่ตั้งเมืองแสนหวี


กำลังโหลดความคิดเห็น