เอเอฟพี - สหประชาชาติระบุว่าแผ่นดินไหวรุนแรงที่ถล่มพม่าเมื่อเดือนก่อนได้ทำให้ผู้คนหลายหมื่นชีวิตต้องไร้ที่อยู่อาศัย และยังทำให้ประเทศที่เผชิญกับความขัดแย้งแห่งนี้ต้องกำจัดซากปรักหักพังจำนวนมากอย่างเร่งด่วน
“มีซากปรักหักพังที่จะต้องถูกกำจัดในพม่าอย่างน้อย 2.5 ล้านตัน หรือประมาณ 125,000 คันรถบรรทุก” โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ระบุในคำแถลง
ผู้แทน UNDP ประจำพม่ากล่าวว่าการวิเคราะห์ของ UNDP ที่บูรณาการข้อมูลดาวเทียมขั้นสูงร่วมกับข้อมูลอื่นๆ ได้แสดงให้เห็นภาพที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง
หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูดเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 3,600 คน เมืองมัณฑะเลย์และสะกาย ทางภาคกลางของประเทศยังคงได้รับความเสียหาย ขณะที่ประชาชนมากกว่า 60,000 คน ต้องแออัดอยู่ในสถานที่อพยพชั่วคราว
ผู้แทน UNDP ประจำพม่าเตือนในคำแถลงว่า ผู้คนหวาดกลัวเกินกว่าจะกลับบ้าน การเชื่อมต่อทางคมนาคมหยุดชะงัก และน้ำประปาใช้การไม่ได้
ตามการวิเคราะห์ของ UNDP พบว่ามีอาคารประมาณ 1.6 ล้านหลังตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวรุนแรง
“อาคารที่ได้รับผลกระทบหลายแห่งไม่ได้ถูกออกแบบให้ทนต่อแผ่นดินไหวรุนแรงเช่นนี้” UNDP ระบุ
หน่วยงานยังเน้นย้ำว่าบ้านเรือนและอาคารสาธารณะมากกว่า 10,000 หลัง อาจได้รับความเสียหายหรือถูกทำลายอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะเดียวกัน สถานพยาบาล 128 แห่ง เผชิญกับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง โดยมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดความเสียหายหรือถูกทำลาย
“เนื่องจากสถานพยาบาลที่จะรองรับประชากรที่ได้รับผลกระทบมีจำนวนน้อยลง ทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความสามารถในการให้การดูแลทางการแพทย์ที่สำคัญหลังจากเกิดแผ่นดินไหว” รายงานระบุ.