รอยเตอร์ - เกาหลีใต้และเวียดนามเห็นพ้องกันในวันนี้ (14) ที่จะขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจหลังการประชุมระดับรัฐมนตรี ในช่วงเวลาที่ทั้งสองประเทศกำลังเร่งเจรจาเพื่อลดผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ
รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้อยู่ระหว่างการเยือนเวียดนาม ในขณะที่ทั้งสองประเทศกำลังพยายามเจรจาเพื่อลดอัตราภาษีตอบโต้ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บที่ 25% และ 46% ตามลำดับ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนก.ค. หลังจากการระงับขึ้นภาษีทั่วโลกสิ้นสุดลง
บริษัทจากเกาหลีใต้เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้เป็นปลายทางการส่งออกอันดับ 3 ของเกาหลีใต้
สองประเทศเห็นพ้องกันในแผนปฏิบัติการเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่มีอยู่เดิมของการค้าทวิภาคีที่ 150,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 และร่วมมือกันในการผลิตพลังงานนิวเคลียร์และพลังงานจากก๊าซธรรมชาติเหลว และการลงทุนในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้า ตามคำแถลงของกระทรวงอุตสหากรรมเกาหลีใต้
ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้นระหว่างการประชุมของรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมเกาหลีใต้และรัฐมนตรีกระทรวงการค้าของเวียดนามในกรุงฮานอย
รัฐมนตรีของเกาหลีใต้ยังได้พบหารือกับตัวแทนขอบริษัทชั้นนำของเกาหลีใต้ เช่น Samsung Electronics, LG Electronics, Hyundai Motor และ HS Hyosung โดยรัฐมนตรีได้ให้คำมั่นว่าจะยังเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ และเวียดนามต่อไปเพื่อลดผลกระทบจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่มีต่อบริษัทเกาหลีใต้ให้เหลือน้อยที่สุด
ซัมซุงผลิตโทรศัพท์มากกว่า 60% ที่จำหน่ายทั่วโลกในเวียดนาม ภายใต้การนำของซัมซุง บริษัทเกาหลีใต้ได้สร้างสถานะของตนเองในเวียดนามมาเป็นเวลานานหลายปี เนื่องจากต้นทุนการผลิตในจีนเพิ่มสูงขึ้นควบคู่ไปกับความเสี่ยงทางการเมืองและการแข่งขัน
ปัจจุบัน การพึ่งพาเวียดนามกำลังมีความเสี่ยงเนื่องจากภาษีที่เพิ่มสูงซึ่งกำลังใกล้จะเกิดขึ้น ที่ได้เผยให้เห็นจุดอ่อนของรูปแบบการส่งออกของเวียดนาม
ในวันจันทร์ (14) ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เรียกร้องความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นกับเวีดนามในด้านการค้าและห่วงโซ่อุปทาน ท่ามกลางความปั่นป่วนที่เกิดจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ขณะที่เขาเริ่มต้นการเดินทางเยือน 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในกรุงฮานอย.