xs
xsm
sm
md
lg

พม่ายังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนหลังเกิดแผ่นดินไหว ขณะทีมกู้ภัยต่างชาติทยอยกลับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - พม่าที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวยังคงต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์ โรงพยาบาลสนาม และที่พักพิงอย่างเร่งด่วน รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยระบุ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของความพยายามบรรเทาทุกข์ในระดับภูมิภาคและการสนับสนุนระยะยาว

แผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูด เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ถือเป็นแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นในพม่าในรอบศตวรรษ เขย่าพื้นที่ที่มีผู้อยู่อาศัย 28 ล้านคน อาคารพังถล่ม ชุมชนพังราบ และผู้คนจำนวนมากไม่มีอาหาร น้ำ และที่พักพิง

รัฐบาลทหารพม่าระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหว 3,645 คน บาดเจ็บ 5,017 คน และสูญหายอีก 148 คน บ้านเรือนเกือบ 49,000 หลัง และอาคารของรัฐมากกว่า 2,100 หลังถูกทำลาย

รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของมาเลเซียได้พบหารือกับเจ้าหน้าที่พม่าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่กรุงเนปีดอ เมืองหลวงของพม่า ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว และได้เห็นถึงขนาดของความเสียหายที่เกิดขึ้น

“สิ่งที่พม่าต้องการคือโรงพยาบาลสนาม”​ มาริษ เสงี่ยมพงษ์ กล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อค่ำวันอังคาร

“โรงพยาบาลที่มีอยู่ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเนื่องจากได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว” รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย ระบุ

นอกจากนี้ มาริษยังกล่าวอีกว่ายังต้องการที่พักชั่วคราว มุ้งกันยุง อาหาร เครื่องกรองน้ำ และแหล่งน้ำสะอาด โดยมีความวิตกเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับโรคติดต่อในหมู่ผู้ที่ไม่มีที่อยู่อาศัย ประกอบกับความร้อนที่รุนแรงในช่วงฤดูร้อน

ในวันพุธ สำนักงานเพื่อการประสานงานกิจการมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติได้ขอบคุณทีมค้นหาและกู้ภัยมากกว่า 30 ทีม จาก 13 ประเทศ ที่ส่งไปค้นหาผู้รอดชีวิต ซึ่งบางส่วนกำลังเดินทางออกจากพม่าแล้ว

“ความเชี่ยวชาญของพวกเขาเป็นสิ่งสำคัญมากหลังเกิดแผ่นดินไหว ที่ช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตและช่วยเหลือชุมชนในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด” OCHA ระบุในโพสต์เฟซบุ๊ก

ทีมค้นหาและกู้ภัยของจีนเดินทางออกจากพม่าในวันพุธหลังเสร็จสิ้นภารกิจ สำนักข่าวซินหัวรายงาน และระบุว่าสิ่งของช่วยเหลือฉุกเฉินชุดที่ 5 จากจีนมาถึงพม่าในวันพุธ รวม 91 ตัน ที่ประกอบด้วยเต็นท์ 266 หลัง มุ้งกันยุง และผ้าใบกันน้ำหลายพันชุด

ภัยพิบัติครั้งนี้เป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ต่อประเทศที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำและสงครามกลางเมืองที่ขยายตัวขึ้นนับตั้งแต่เกิดรัฐประหารในปี 2564 โดยคาดว่ามีผู้พลัดถิ่นฐานในพม่าประมาณ 3.5 ล้านคนก่อนเกิดแผ่นดินไหว ตามรายงานของสหประชาชาติ

รัฐบาลทหารและกลุ่มติดอาวุธได้ประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียวเพื่อสนับสนุนความพยายามช่วยเหลือบรรเทาทุกข์จากแผ่นดินไหว แต่ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหากันว่าละเมิดข้อตกลงหยุดยิงดังกล่าว

พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำกองทัพพม่าระบุว่ารัฐบาลจะต้องมั่นใจได้ว่าอาคารต่างๆ จะสามารถต้านทานภัยธรรมชาติได้หลังก่อสร้างใหม่

“เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเรียนรู้จากความสูญเสียครั้งใหญ่ในอดีต เจ้าหน้าที่ต้องกำกับดูแลการก่อสร้างอาคารอย่างเข้มงวด” สื่อของรัฐรายงานอ้างคำพูดของผู้นำรัฐบาลทหารพม่า

มาริษ นักการทูตระดับสูงของไทยกล่าวว่ากำลังวางแผนเพื่อให้ความช่วยเหลือระยะกลางและระยะยาวแก่พม่า รวมทั้งการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย

มาเลเซียต้องการประสานงานความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ระดับภูมิภาคที่เมืองสะกาย โดยไทยจัดการกับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในมัณฑะเลย์ ซึ่งทั้งสองพื้นที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหว

เขาเสริมว่าเป้าหมายคือการปรับปรุงศักยภาพในพื้นที่เพื่อให้แน่ใจว่าความช่วยเหลือจากต่างประเทศจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้ามาในพม่ามีความเหมาะสม

“เราได้แจ้งพม่าว่านอกจากการช่วยเหลือประชาชนแล้ว ทั้งสองทีมจะช่วยจัดการประสานงานความช่วยเหลือที่เข้ามาด้วย” มาริษ ระบุ.








กำลังโหลดความคิดเห็น