MGR ออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ตอบโต้คำวิจารณ์ที่ระบุว่ารัฐบาลนิ่งเฉยต่อการประกาศของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีตอบโต้กับกัมพูชา โดยระบุว่ารัฐบาลกำลังทำงานอย่างแข็งขันอยู่เบื้องหลังเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ผู้นำกัมพูชาปฏิเสธคำกล่าวอ้างของกลุ่มฝ่ายค้านที่ระบุว่ารัฐบาลไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ โดยอธิบายว่ารัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินการในสิ่งที่จำเป็นแล้ว
ความคิดเห็นของฮุน มาเนต เกิดขึ้นหลังจากอดีตผู้นำฝ่ายค้าน สม รังสี และมู สุจัว ได้ออกมาวิจารณ์ว่า ฮุน มาเนต ควรเป็นผู้นำการเจรจากับสหรัฐฯ มากกว่าที่จะตอบสนองอย่างเชื่องช้า โดยทั้งสองได้เน้นย้ำว่าจำเป็นต้องดำเนินการในทันที
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากกัมพูชาในอัตรา 49% เพื่อตอบโต้ที่กัมพูชาเกินดุลการค้า 97% เมื่อเทียบกับที่กัมพูชานำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ
ฮุน มาเนต ได้ชี้แจงว่าสหรัฐฯ ได้กำหนดภาษีศุลกากรตอบโต้กับสินค้านำเข้าจาก 180 ประเทศ ไม่ใช่แค่กัมพูชาเท่านั้น นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีจากประเทศอื่นๆ กำลังทำงานอย่างแข็งขันเพื่อหาทางแก้ไขปัญหานี้ด้วยวิธีต่างๆ
สำหรับกัมพูชา รัฐบาลกำลังหาทางแก้ไขเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและสวัสดิการของชาวกัมพูชา
ฮุน มาเนต ตอบโต้ฝ่ายค้านในต่างประเทศโดยระบุว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉยตามที่ถูกกล่าวหา รัฐบาลกำลังทำงานอยู่เบื้องหลัง และคณะกรรมการด้านนโยบายได้ประเมินสถานการณ์ต่างๆ โดยเขาอธิบายว่าพวกเขาเพียงแค่รอการยืนยันก่อนที่จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติม
เขากล่าวเสริมว่า “41 ชั่วโมงหลังจากสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษี ผมได้ตอบกลับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผ่านทางจดหมายโดยขอให้มีการเจรจาเรื่องภาษีระหว่างสองประเทศ”
ฮุน มาเนต กล่าวว่าเขาได้ทำงานอย่างเงียบๆ เป็นเวลา 37 ชั่วโมงอยู่เบื้องหลัง ก่อนจะมอบความรับผิดชอบให้กับรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง และรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์
เกี่ยวกับการเจรจาเรื่องภาษีกับสหรัฐฯ ฮุน มาเนต อธิบายว่าขั้นตอนแรกของกัมพูชาคือการลดภาษีสินค้า 19 รายการที่ครอบคลุมสินค้าสหรัฐฯ 85 ชนิด จาก 35% เหลือ 5% และเมื่อสหรัฐฯ เปิดการเจรจา เจ้าหน้าที่กัมพูชาจะเดินทางไปสหรัฐฯ ทันทีเพื่อหารือเพิ่มเติม เขาอธิบายว่านี่เป็นแนวทางที่รับผิดชอบในการลดผลกระทบให้เหลือน้อยที่สุด เนื่องจากสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับอนาคตของกัมพูชา
นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ตอบโต้อย่างเร่งรีบตามคำเรียกร้องของกลุ่มฝ่ายค้าน โดยเขาย้ำว่ารัฐบาลมีนโยบายและกลยุทธ์ที่ชัดเจน
เขาระบุว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ปัญหาใหม่ เนื่องจากฝ่ายค้านที่นำโดย สม รังสี พยายามหลอกลวงและทำให้ประชาชนสับสนในเรื่องต่างๆ อยู่เป็นประจำ รวมถึงประเด็นภาษีสหรัฐฯ
เขากล่าวว่า “ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ผมมีความรับผิดชอบเช่นเดียวกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการดำเนินการเพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของชาติและสวัสดิการของประชาชน”
ฮุน มาเนต เสริมว่าประเทศอื่นๆ ทั้งฝ่ายค้านและพรรครัฐบาลมักจะร่วมกันเรียกร้องให้มีการเจรจาเมื่อเผชิญกับความท้าทายดังกล่าว แต่ในกัมพูชา กลุ่มฝ่ายค้านในต่างประเทศไม่เพียงล้มเหลวที่จะช่วยเหลือประเทศในช่วงเวลาที่ยากลำบากเท่านั้น แต่ยังโจมตีรัฐบาลและทำให้ประชาชนเข้าในผิด
เขาเสริมว่าถ้าฝ่ายค้านห่วงใยประชาชนอย่างแท้จริง พวกเขาควรออกข้อความหรือดำเนินการเพื่อช่วยเหลือพลเมืองที่กำลังทุกข์ยาก มากกว่าที่จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล
ฮุน มาเนต ระบุว่า สม รังสี ขาดความรู้ด้านนโยบายเศรษฐกิจและการเงิน โดยระบุว่าเขาอาศัยการใช้เอไอเขียนข้อเสนอนโนบายแทนการใช้ความเข้าใจของเขาเอง.