เอพี - ความพยายามในการค้นหาผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในพม่าเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมากำลังลดระดับลง และแทนที่ด้วยกิจกรรมบรรเทาทุกข์และการฟื้นฟูมากขึ้น ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้มากกว่า 3,500 คน และยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ในกรุงเนปีดอ ประชาชนเข้าเก็บซากปรักหักพังและรวบรวมไม้จากบ้านที่พังเสียหายท่ามกลางสายฝน ส่วนทหารเข้าเคลื่อนย้ายซากปรักหักพังตามวัดต่างๆ
หน่วยงานดับเพลิงของพม่าเปิดเผยว่า ทีมกู้ภัยได้กู้ร่างผู้เสียชีวิต 10 คนออกจากเศษซากอาคารที่พังถล่มในเมืองมัณฑะเลย์ ที่เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ
หน่วยงานระบุว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างชาติจากสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินเดีย ได้เดินทางกลับประเทศแล้ว หลังจากถือว่าภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิตเสร็จสิ้นลง ส่วนทีมกู้ภัยที่ยังปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่อยู่อาศัยของกรุงเนปีดอก็ค่อยๆ ลดลงเช่นกัน
แผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูดสั่นสะเทือนหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลให้เกิดความเสียหายใน 6 เขตและรัฐ แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้หลายพื้นที่ไม่มีทั้งไฟฟ้า โทรศัพท์ หรือแม้แต่การเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งถนนและสะพานพังเสียหาย ทำให้ยากต่อการประเมินความเสียหายทั้งหมด
ฝนตกหนักและลมแรงยังทำให้ปฏิบัติการกู้ภัยและบรรเทาทุกข์หยุดชะงักในคืนวันเสาร์และเพิ่มความทุกข์ยากให้กับคนไร้บ้านที่ต้องนอนกลางแจ้งอีกด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับสัปดาห์นี้ระบุว่าอาจมีฝนตกประปรายและฝนฟ้าคะนองทั่วประเทศ
ขณะเดียวกัน รัฐบาลทหารพม่าและฝ่ายตรงข้ามในสนามรบต่างกล่าวหากันไปมาเกี่ยวกับการละเมิดคำประกาศหยุดยิงที่แต่ละฝ่ายประกาศไว้เพื่อสนับสนุนความพยายามช่วยเหลือบรรเทาทุกข์จากแผ่นดินไหว
พม่าอยู่ในความยุ่งเหยิงวุ่นวายตั้งแต่กองทัพเข้ายึดอำนาจในปี 2564 และขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของอองซานซูจี ที่ส่งผลให้เกิดการประท้วงทั่วประเทศที่ลุกลามกลายเป็นการต่อต้านด้วยอาวุธ และนำไปสู่สิ่งที่เทียบได้กับสงครามกลางเมืองในปัจจุบัน
แม้ว่ารัฐบาลทหารและกลุ่มติดอาวุธจะประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียวเป็นการชั่วคราว แต่มีรายงานการสู้รบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรายงานที่ระบุว่ากองทัพยังดำเนินการโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่อง
การยืนยันการสู้รบดังกล่าวเป็นเรื่องยากเนื่องจากพื้นที่ที่เกิดการสู้รบอยู่ห่างไกลและข้อจำกัดต่อนักข่าว
กลุ่มพันธมิตรสามภราดรภาพ ที่ประกอบด้วยกองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ทรงพลัง 3 กลุ่ม ได้ประกาศหยุดยิงชั่วคราวเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ถัดจากการประกาศหยุดยิงของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG)
NUG ที่เป็นผู้นำกองกำลังต่อต้านที่สนับสนุนประชาธิปไตยระบุว่ากองกำลังติดอาวุธของตน ซึ่งก็คือกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) จะหยุดโจมตีเป็นเวลา 2 สัปดาห์
หลังจากนั้น กองทัพพม่าได้ประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียวในลักษณะเดียวกัน รวมถึงองค์การเอกราชกะฉิ่น (KIO) กลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยอีกหนึ่งกลุ่มที่เป็นฝ่ายตรงข้าม
อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายที่ประกาศหยุดยิงนี้ต่างสงวนสิทธิในการต่อสู้เพื่อป้องกันตนเอง
กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (TNLA) สมาชิกของพันธมิตรสามภราดรภาพ ได้ออกคำแถลงเมื่อวันอาทิตย์ผ่านแพลตฟอร์มส่งข้อความ Telegram ว่ากองทัพพม่าโจมตีทางอากาศ รวมทั้งทิ้งระเบิดก๊าซพิษในหมู่บ้านที่กลุ่มติดอาวุธยึดครองเมื่อปีก่อนในพื้นที่ตอนเหนือของรัฐชาน
กองทัพอาระกัน (AA) อีกหนึ่งสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรสามภราดรภาพ ที่ต่อสู้ในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศ กล่าวเมื่อคืนวันเสาร์ว่ากองทัพยังคงเปิดฉากโจมตีตอบโต้ ทิ้งระเบิดทางอากาศ ระดมยิงด้วยอาวุธหนัก และโจมตีทางทะเลต่อกองกำลังของตนใน 2 เมืองของรัฐยะไข่ รวมถึงในเขตอิรวดี และเขตพะโค เป็นประจำทุกวัน
กลุ่มระบุว่าได้เข้ายึดฐานทหารที่กลุ่มปิดล้อมบนเนินเขาที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ในพะโค หนึ่งวันหลังจากประกาศหยุดยิง แต่ยังคงรักษาข้อตกลงด้วยการไม่โจมตีทหารของกองทัพที่กำลังล่าถอย
รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติได้กล่าวหาว่ากองทัพโจมตีทางอากาศและโจมตีด้วยปืนใหญ่ 63 ครั้งนับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว ที่เป็นผลให้พลเรือนเสียชีวิต 68 คน รวมทั้งเด็ก 1 คน และผู้หญิง 15 คน
อย่างไรก็ตาม โฆษกรัฐบาลทหารกล่าวในข้อความเสียงถึงนักข่าวเมื่อคืนวันเสาร์ว่า กลุ่มต่างๆ ในพันธมิตรสามภราดรภาพและกองทัพเอกราชกะฉิ่น รวมถึงสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของพม่า และกองกำลังสนับสนุนประชาธิปไตยในเขตมะเกว ทางภาคกลาง และกลุ่มอื่นๆ ได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงด้วยการโจมตีกองทัพ.