เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวว่าผู้นำระดับสูงของเวียดนามได้บอกกับเขาในการหารือทางโทรศัพท์ที่สร้างสรรค์มากเมื่อวันศุกร์ (4) ว่าเขาต้องการทำข้อตกลงเรื่องภาษี หลังจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ถูกเรียกเก็บภาษีจำนวนมาก
เวียดนาม ประเทศที่เป็นศูนย์กลางการผลิตขนาดใหญ่ ที่ถือว่าสหรัฐฯ เป็นตลาดใหญ่ที่สุดเมื่อปีที่แล้ว ถูกกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสูงถึง 46% ในสงครามการค้าโลกของทรัมป์
“ผมเพิ่งมีการโทรศัพท์อย่างสร้างสรรค์กับโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ที่บอกกับผมว่าเวียดนามต้องการลดภาษีศุลกากรลงเหลือศูนย์ ถ้าพวกเขาสามารถบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ ได้ ผมได้ขอบคุณเขาในนามของประเทศของเรา และบอกว่าผมหวังว่าจะได้พบหารือกันในอนาคตอันใกล้นี้” ทรัมป์ ระบุ
ความเต็มใจของทรัมป์ในการเข้าร่วมการเจรจากับเวียดนามเน้นย้ำให้เห็นถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีของเขา หลังจากเจ้าหน้าที่ยืนกรานว่าการจัดเก็บภาษีไม่สามารถต่อรองได้
เวียดนามได้ประโยชน์จากตำแหน่งที่ตั้งของประเทศและแรงงานฝีมือที่มีค่าแรงต่ำเพื่อวางตำแหน่งตัวเองให้เป็นศูนย์กลางการผลิตทางเลือกแทนจีนในช่วงสงครามการค้าระหว่างปักกิ่งและวอชิงตัน ที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก
หลายบริษัทได้ย้ายส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทาน และเวียดนามเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าระหว่างปี 2560-2566
แต่ปัจจุบัน แบรนด์ใหญ่เช่น ไนกี้ (Nike) ที่ผลิตรองเท้า 50% และเครื่องแต่งกาย 28% ในเวียดนามในปีงบประมาณ 2567 เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น ที่พวกเขาจะต้องรับภาระหรือส่งต่อให้กับลูกค้า
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นินเทนโด (Nintendo) ยักษ์ใหญ่ด้านเกมของญี่ปุ่น ยังย้ายส่วนแบ่งการผลิตที่เพิ่มขึ้นไปยังเวียดนามและกัมพูชา
นินเทนโดระบุในวันศุกร์ว่าจะเลื่อนการสั่งจองล่วงหน้าเครื่องเล่นเกม Switch 2 ที่จะเปิดตัวในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ ออกไป เนื่องจากบริษัทกำลังประเมินผลกระทบจากภาษีของทรัมป์.