รอยเตอร์ - บริษัทสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) กำลังเตรียมสร้างสถานีภาคพื้นดินในเวียดนามสำหรับดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) และวางแผนที่จะสร้างสถานีภาคพื้นดินเพิ่มอีกหลายแห่ง ตามที่แหล่งข่าว 2 รายที่ทราบเรื่องการหารือดังกล่าวบอกกับรอยเตอร์
การลงทุนที่เป็นไปได้นี้เกิดขึ้นหลังจากเวียดนามตัดสินใจอนุญาตให้สตาร์ลิงก์ดำเนินการภายใต้โครงการนำร่อง 5 ปี ที่เจ้าของอย่างอีลอน มัสก์ ยังคงควบคุมบริษัทในเครือในประเทศได้อย่างเต็มที่
ฮานอยได้ขอให้สเปซเอ็กซ์ตั้งสถานีภาคพื้นดินอย่างน้อย 1 แห่งในเวียดนาม ตามการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีที่ลงวันที่ 23 มี.ค. และรอยเตอร์ได้ตรวจสอบ
สถานีดังกล่าวอาจเปิดใช้งานได้เร็วสุดในเดือนพ.ค. หรือเดือนมิ.ย. ในเมืองดานัง ทางภาคกลาง และอาจเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายมากถึง 15 แห่งในประเทศ
ทั้งนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าแผนดังกล่าวจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่หากเวียดนามถูกเรียกเก็บภาษีสูง ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวว่าจะประกาศในวันที่ 2 เม.ย. กับประเทศที่ฝ่ายบริหารถือว่าได้ประโยชน์อย่างไม่เป็นธรรมจากการค้ากับสหรัฐฯ
สเปซเอ็กซ์และกระทรวงเทคโนโลยีของเวียดนามไม่ได้ตอบกลับคำขอแสดงความคิดเห็นจากรอยเตอร์
แผนดังกล่าวจะทำให้เวียดนามเป็นที่ตั้งของหนึ่งในเครือข่ายสตาร์ลิงก์ที่ใหญ่ที่สุด โดยสตาร์ลิงก์ให้บริการในกว่า 100 ประเทศและเขตแดน แต่ไม่ได้เปิดเผยว่ามีสถานีภาคพื้นดินอยู่กี่แห่ง และไม่ใช่ทุกประเทศที่จะมีสถานีภาคพื้นดินที่สื่อสารกับดาวเทียมและส่งข้อมูลไปยังผู้ใช้
หนึ่งในเจ้าหน้าที่เวียดนามระบุว่า สตาร์ลิงก์ยังอยู่ระหว่างยื่นดำเนินการในเวียดนามและเจรจาเพื่อจัดหาบริการการสื่อสารอินทราเน็ตที่ปลอดภัย และว่าแผนอินทราเน็ตยังไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล
รัฐบาลเวียดนามได้อนุญาตให้สตาร์ลิงก์ให้บริการลูกค้าได้สูงสุด 600,000 ราย ที่เป็นขีดจำกัดในประเทศที่ราคาอินเทอร์เน็ตต่ำกว่าของสตาร์ลิงก์ และมีเพียงพื้นที่ห่างไกลและยากจนเท่านั้น ที่ไม่มีการเชื่อมต่อความเร็วสูง ที่อาจทำให้สตาร์ลิงก์เสนอให้บริการเพิ่มเติมได้
แหล่งข่าวที่ 2 ที่ทราบข้อมูลสรุปเกี่ยวกับการประชุมในเดือนมี.ค. ระหว่างตัวแทนของสตาร์ลิงก์และหน่วยงานท้องถิ่นระบุว่า การลงทุนของสตาร์ลิงก์จะมีมูลค่าประมาณ 3 ล้านดอลลาร์สำหรับสถานีภาคพื้นดินในภาคกลางของเวียดนาม
แหล่งข่าวทั้งสองรายกล่าวว่าแผนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งสถานี 10-15 แห่งทั่วเวียดนาม แต่จนถึงขณะนี้ ขั้นตอนด้านกฎระเบียบดำเนินการเฉพาะกับสถานีแรกเท่านั้น
การเจรจาเพื่อให้ได้เงื่อนไขความเป็นเจ้าของสำหรับสตาร์ลิงก์ ที่เวียดนามคัดค้านในตอนแรก ได้กลับมาดำเนินการอีกครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นว่าเวียดนามอาจเผชิญกับอัตราภาษีจากรัฐบาลทรัมป์ เนื่องจากเกินดุลการค้าจำนวนมากกับวอชิงตัน ที่สูงถึง 123,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีก่อน
บุคคลที่ 3 ที่ทราบเรื่องการหารือดังกล่าวระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายของเวียดนามต่อสตาร์ลิงก์เป็นเหมือนกิ่งมะกอกต่อมัสก์ที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดของทรัมป์
หนึ่งในแหล่งข่าวและเจ้าหน้าที่เวียดนามอีกรายหนึ่งกล่าวว่า สตาร์ลิงก์ได้เปิดให้บริการทดลองใช้งานฟรีในเวียดนาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าบริการดังกล่าวทำให้ยามชายฝั่งสามารถควบคุมโดรนในทะเลจีนใต้ได้ แต่บริการได้ระงับลงเมื่อการเจรจาเกี่ยวกับสิทธิความเป็นเจ้าของหยุดชะงักไปในปลายปี 2566
สถานีภาคพื้นดินจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพบริการของสตาร์ลิงก์ในประเทศ ในขณะเดียวกัน ก็ยังช่วยให้หน่วยงานกำกับดูแลสามารถตรวจสอบการถ่ายโอนข้อมูลได้ใกล้ชิดมากขึ้น ที่ถือเป็นประเด็นสำคัญในประเทศที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด หนึ่งในแหล่งข่าวระบุ
การรับส่งข้อมูลทั้งหมดในเวียดนามต้องผ่านเกตเวย์นี้ การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีในเดือนมี.ค. ระบุ โดยกำหนดข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูล การระบุตัวตนของผู้ใช้ และการระงับการบริการด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
สเปซเอ็กซ์ได้ให้คำมั่นที่จะลงทุน 1,500 ล้านดอลลาร์ในเวียดนาม ตามรายงานที่เผยแพร่ในเดือนก.ย. บนเว็บไซต์ของรัฐบาล และสเปซเอ็กซ์ได้แจ้งให้ซัปพลายเออร์ย้ายการผลิตบางส่วนมายังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ด้วย.