เอเอฟพี - เวียดนามระบุว่าได้ปรับลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าหลายรายการ ที่รวมทั้งรถยนต์ ก๊าซธรรมชาติเหลว และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรบางชนิด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น
ประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังนายกรัฐมนตรีฝ่าม มีง จีง ของเวียดนาม กล่าวเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่าเวียดนามกำลังพิจารณาอัตราภาษีเพื่อส่งเสริมการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
การขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ กับเวียดนามสูงเป็นอันดับ 3 รองจากจีนและเม็กซิโก ที่ทำให้มีความกังวลเพิ่มขึ้นว่าฮานอยอาจเป็นเป้าหมายต่อไปของมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะส่งผลกระทบไปทั่วตลาดโลก
“ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. 2568 สินค้าบางประเภท เช่น รถยนต์ ไม้ เอทานอล ขาไก่แช่แข็ง ถั่วพิสตาชิโอ อัลมอนด์ แอปเปิลสด เชอร์รี่ ลูกเกด และอื่นๆ จะต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราพิเศษใหม่” คำแถลงเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์บนเว็บไซต์ของรัฐบาล ระบุ
คำแถลงดังกล่าวยังระบุว่าภาษีนำเข้ารถยนต์บางรุ่นจะลดลงครึ่งหนึ่ง และอัตราภาษีสำหรับก๊าซธรรมชาติเหลวจะลดลงจาก 5% เหลือ 2%
ภาษีนำเข้าขาไก่แช่แข็งจะลดลงจาก 20% เหลือ 15% ภาษีนำเข้าพิสตาชิโอที่ยังไม่แกะเปลือกจะลดจาก 15% เหลือ 5% และอัลมอนด์จะลดลงจาก 10% เหลือ 5%
“ผมเชื่อว่าเวียดนามกำลังทำทุกวิถีทางเพื่อลดผลกระทบ แทนที่จะดำเนินการตอบโต้ พวกเขากลับปรับลดให้และหวังว่าจะได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าประเทศส่วนใหญ่ แต่โดยรวมแล้วคาดว่าจะยังคงมีภาษีอยู่” ซีอีโอของนิคมอุตสาหกรรม DEEP C ในเวียดนาม และประธานหอการค้ายุโรปในเวียดนาม ระบุ
เวียดนามเป็นประเทศผู้ผลิตที่พึ่งพาการส่งออกอย่างมาก และสหรัฐฯเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของประเทศเมื่อปีที่ผ่านมา
บริษัทอเมริกันหลายแห่งสร้างโรงงานที่นี่และบริษัทจากจีนก็ใช้ประเทศนี้เข้าถึงตลาดสหรัฐฯ
เวียดนามได้ประโยชน์จากสงครามการค้าระหว่างปักกิ่งและวอชิงตันในการดำรงตำแหน่งสมัยแรกของทรัมป์ เนื่องจากเวียดนามกลายเป็นแหล่งผลิตทางเลือกในเอเชีย และดุลการค้ากับสหรัฐฯ เกินดุลเพิ่มขึ้น 2 เท่าระหว่างปี 2560-2566
ทรัมป์กล่าวว่าอัตราภาษีจะใช้กับทุกประเทศ ไม่เพียงแต่ประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ มากที่สุดเท่านั้น แต่เขาได้กล่าวเพิ่มเติมเมื่อวันจันทร์ว่าเขาจะใจดีกับคู่ค้า
กระทรวงการคลังของเวียดนามระบุเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าการเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีมีขึ้นเพื่อรับมือกับการพัฒนาที่ซับซ้อนและคาดเดาไม่ได้ของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงในนโยบายเศรษฐกิจ การค้า และภาษีศุลกากร
ฮานอยประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะอนุญาตให้บริษัทสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ของอีลอน มัสก์ เปิดตัวบริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องที่จะดำเนินไปจนถึงสิ้นปี 2573 และรัฐบาลระบุว่าไม่มีการจำกัดการเป็นเจ้าของของบริการดังกล่าวของต่างชาติ
เมื่อเดือนที่ผ่านมา ผู้นำเวียดนามได้กล่าวกับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯว่า เวียดนามกำลังดำเนินการแก้ไขข้อกังวลปัจจุบันของสหรัฐฯ ในความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ที่รวมถึงการส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการค้าของเวียดนามไปยังสหรัฐฯ
สำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ ระบุว่าการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ กับเวียดนามอยู่ที่ 123,500 ล้านดอลลาร์ ในปี 2567 เพิ่มขึ้นมากกว่า 18% จากปี 2566.