เอเอฟพี - เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงเกิดในพม่าและไทยในวันศุกร์ (28) ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 150 คน และได้รับบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน โดยยังมีผู้ที่ติดอยู่ในอาคารที่พังถล่มอีกหลายสิบชีวิต และคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นอีก
แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.7 แมกนิจูด เกิดขึ้นทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองสะกายในภาคกลางของพม่าในช่วงบ่าย และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกขนาด 6.4 แมกนิจูดในอีกไม่กี่นาทีต่อมา แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังราบ สะพานพังถล่ม และถนนแตกร้าวในพื้นที่ต่างๆ ของพม่า และยังทำให้ตึกสูง 30 ชั้นที่กำลังก่อสร้างในกรุงเทพฯ พังถล่มด้วย
แม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดเผยถึงขอบเขตของภัยพิบัติครั้งนี้ แต่ผู้นำพม่าได้กล่าวคำร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่หาได้ยาก
พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารพม่ากล่าวว่ามีผู้เสียชีวิต 144 คน และได้รับบาดเจ็บ 732 คน แต่เตือนว่ายอดผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ในไทย จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตยืนยันแล้ว 8 คน และคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเช่นกัน
พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้กล่าวปราศรัยผ่านทางโทรทัศน์ หลังจากเดินทางไปเยี่ยมโรงพยาบาลในกรุงเนปีดอ โดยกล่าวเชิญประเทศ องค์กร หรือใครก็ตามในพม่าเข้ามาช่วยเหลือ และเรียกร้องให้มีการบรรเทาทุกข์ครั้งใหญ่จากภัยพิบัตินี้ โดยย้ำว่าเขาเปิดรับทุกทางสำหรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวว่าวอชิงตันจะเสนอความช่วยเหลือ
สงครามกลางเมือง 4 ปี ที่เกิดขึ้นจากการยึดอำนาจของกองทัพได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานและระบบการดูแลสุขภาพของประเทศ ทำให้ขาดอุปกรณ์ในการรับมือกับภัยพิบัติเช่นนี้
หน่วยงานด้านสาธารณูปโภคในพื้นที่แจ้งว่าไฟฟ้าดับในพื้นที่บางส่วนของย่างกุ้ง ที่เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ
ทางการพม่าได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 6 พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดหลังจากแผ่นดินไหว ที่องค์การอนามัยโลกระบุว่าเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตและสุขภาพที่ร้ายแรงอย่างยิ่ง
ผู้บาดเจ็บหลายร้อยคนเดินทางมาถึงโรงพยาบาลหลักในกรุงเนปีดอ ที่ทางเข้าแผนกฉุกเฉินพังถล่มทับรถยนต์
เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเดียวกับที่พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย เดินทางมาเยี่ยม ระบุว่าสถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก โดยมีแพทย์ให้การรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ด้านนอก
“ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน เรากำลังพยายามจัดการกับสถานการณ์” แพทย์คนหนึ่งกล่าวกับเอเอฟพี
เมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของพม่า ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก ภาพถ่ายของเอเอฟพีจากเมืองนี้แสดงให้เห็นอาคารหลายหลังพังเสียหาย
ชาวเมืองที่ติดต่อทางโทรศัพท์เล่าให้เอเอฟพีฟังว่า ในบรรดาอาคารที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว ยังรวมถึงโรงพยาบาลและโรงแรม และยังบอกอีกว่าเมืองนี้ขาดแคลนเจ้าหน้าที่กู้ภัย
สะพานถนนหลักที่เชื่อมระหว่างมัณฑะเลย์และสะกายพังลง มหาวิทยาลัยของเมืองและกำแพงพระราชวังโบราณพังถล่ม และระบบโทรคมนาคมได้รับผลกระทบ สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ ระบุ
แผ่นดินไหวครั้งนี้สามารถรับรู้ได้ทั่วทั้งภูมิภาค ที่จีน กัมพูชา บังกลาเทศ และอินเดีย ต่างรายงานถึงแรงสั่นสะเทือน
อินเดีย ฝรั่งเศส และสหภาพยุโรป ต่างเสนอให้ความช่วยเหลือ ขณะที่องค์การอนามัยโลกกล่าวว่ากำลังระดมศูนย์โลจิสติกส์ในดูไบเพื่อเตรียมเวชภัณฑ์สำหรับผู้บาดเจ็บ
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียชีวิตและความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางในข้อความโทรเลขที่วาติกันนำออกเผยแพร่
แผ่นดินไหวเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยในพม่า โดยแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.0 แมกนิจูด หรือมากกว่านั้น เกิดขึ้นถึง 6 ครั้งในระหว่างปี 2473 ถึงปี 2499 ใกล้กับรอยเลื่อนสะกาย ที่ทอดยาวจากเหนือจดใต้ผ่านใจกลางประเทศ ตามข้อมูลของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS)
แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.8 แมกนิจูด ที่เมืองพุกาม เมืองหลวงเก่าในภาคกลางของพม่า ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน ในปี 2559 และยังส่งผลให้ยอดเจดีย์และผนังวัดโบราณพังทลายลงมาด้วย.