MGR ออนไลน์ - รัฐบาลทหารพม่าประกาศว่าการเลือกตั้งที่วางแผนจะจัดในเดือนธ.ค. 2568 และเดือนม.ค. 2569 จะแบ่งออกเป็น 4 ระยะ คำประกาศที่ถือเป็นครั้งแรกที่กองทัพได้กำหนดตารางเวลาที่ชัดเจนสำหรับการเลือกตั้งที่เป็นข้อถกเถียง
เมื่อต้นเดือนมี.ค. รัฐบาลทหารระบุว่าการเลือกตั้งมีกำหนดจัดในเดือนธ.ค. 2568 และอาจมีขึ้นในเดือนม.ค. 2569 แต่ผู้สังเกตการณ์ในเวลานั้นปฏิเสธแผนดังกล่าว โดยระบุว่ากองทัพจะไม่สามารถจัดการเลือกตั้งในพื้นที่ที่กองทัพไม่ได้ควบคุม ซึ่งก็คือประมาณครึ่งหนึ่งของประเทศ และประชาชนจะมองว่าผลการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นเรื่องหลอกลวง
“วันเลือกตั้งชั่วคราวจะกำหนดไว้ในสัปดาห์ที่ 3 และสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนธ.ค. ปีนี้ และสัปดาห์ที่ 1 และสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนม.ค.” สำนักงานผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่าระบุ และเสริมว่าการเลือกตั้งจะจัดขึ้นเป็น 4 ระยะ
“รัฐบาลต้องใช้มาตรการขั้นสูงเพื่อจัดการเลือกตั้งทั่วไปตามระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรคที่ปราศจากการฉ้อโกง ที่เสรีและยุติธรรมอย่างแท้จริง” คำแถลงระบุ
นับตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2564 รัฐบาลทหารได้พยายามจัดการเลือกตั้งหลายครั้ง แต่ความพยายามเหล่านั้นถูกเลื่อนออกไปอย่างต่อเนื่อง
ในช่วง 4 ปี ที่ผ่านมา รัฐบาลทหารได้ขยายเวลาการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินหลายครั้ง โดยอ้างถึงการทุจริตในการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2563 ที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยได้ชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
จากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินติดต่อกัน ทำให้รัฐบาลทหารเลื่อนกระบวนการเลือกตั้งออกไป และทำให้พวกเขาครองอำนาจยาวนานขึ้น
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สัญญาณของความคืบหน้าในการจัดการเลือกตั้งได้ปรากฎขึ้น โดยผู้นำรัฐบาลทหารได้เดินทางไปต่างประเทศเพื่อรับการสนับสนุนจากนานาชาติ
หลังจากเยือนรัสเซียและเบลารุสในเดือนมี.ค. ทั้งสองประเทศได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนแผนการเลือกตั้งของรัฐบาลทหาร เช่นเดียวกับอินเดียและจีน ที่แสดงการสนับสนุนกระบวนการเลือกตั้งของพม่า แม้ว่ารัฐบาลทหารพม่าจะตัดสินใจสั่งห้ามพรรคการเมืองบางพรรคลงทะเบียนใหม่ จากข้อกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้องกับกองกำลังติดอาวุธที่เป็นกบฎ
แต่ผู้สังเกตการณ์ ที่รวมถึงกลุ่มสิทธิมนุษยชนและเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยที่ถูกโค่นอำนาจ ได้ตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของการเลือกตั้งที่นำโดยรัฐบาลทหาร หลังจากการสำรวจสำมะโนประชากรของกองทัพทำให้เจ้าหน้าที่ปกครองเสียชีวิตหลายสิบคนและพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศยังไม่ได้รับการสำรวจ
ความรุนแรงที่แพร่กระจายไปอย่างกว้างขวางในหลายพื้นที่ ประกอบกับการโจมตีทางอากาศเกือบทุกวันจากกองทัพพม่า ที่มักมุ่งเป้าพลเรือน ยังทำให้หลายคนตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ของการเลือกตั้ง
กลุ่มติดอาวุธควบคุมพื้นที่ชายแดนของประเทศเป็นส่วนใหญ่ ทำให้พื้นที่เช่นรัฐยะไข่ และรัฐชาน อยู่ภายใต้อำนาจการควบคุมที่ไม่แน่นอน ที่การมีอยู่ของรัฐบาลทหารนั้นมีเพียงเล็กน้อย.