MGR ออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชาวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มฝ่ายค้านในต่างประเทศที่อ้างตัวว่าเป็นผู้รักชาติ ขณะที่พยายามยุยงปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทยที่ชายแดนตาเมือนธม
ผู้นำกัมพูชากล่าวท้าทายคนเหล่านี้ โดยระบุว่าหากพวกเขาเชื่อมั่นในวาทกรรมของตัวเองจริงๆ พวกเขาก็ควรพิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นนั้น โดยผู้นำกัมพูชาได้เสนอที่จะจัดหาอาวุธ อุปกรณ์ทางทหาร และประจำการคนเหล่านั้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อสัมผัสประสบการณ์ของความยากลำบากที่กองทัพกัมพูชาเผชิญ
ผู้นำเขมรเน้นย้ำว่า “สำหรับคนที่อ้างว่าเราอ่อนแอ ว่ากองทัพของเราไม่กล้าเผชิญหน้ากับทหารไทย โดยเฉพาะนักการเมืองบางคนในต่างประเทศ ผมขอพูดว่า ย้อนกลับไปเมื่อปี 2551 ตอนที่เราเผชิญกับความขัดแย้ง ผมได้ตรวจสอบบันทึกและไม่มีใครในบรรดาพวกคุณออกมาให้การสนับสนุน แต่กลับกัน มีบางคนกล่าวหาว่ารัฐบาลจัดฉากความขัดแย้งและกระทำการอย่างโง่เขลา”
“ตอนนี้ถ้าคุณต้องการพิสูจน์ความรักชาติของคุณ อย่าเพียงแค่พูดลอยๆ ถ้าคุณต้องการมาจริงๆ ผมรับรองว่าคุณจะไม่ถูกจับกุม ผมจะจัดกลุ่มทหารให้คุณ คุณจะประจำอยู่ที่ฐานทหาร พร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็นทั้งหมด และถูกส่งไปประจำการเพื่อเฝ้าแนวหน้าเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่ทหารของเราต้องเผชิญ ถามพวกเขาว่าพวกเขาไม่รักชาติหรือ ทำไมพวกเขายังประจำการอยู่ที่นั่น ไม่ใช่เพราะพวกเขากลัว แต่เพราะพวกเขาเข้าใจว่าความขัดแย้งด้วยอาวุธไม่ใช่ทางออก แต่พวกเขาใช้การเจรจาเพื่อแก้ไขข้อพิพาทแทนที่จะเพิ่มความตึงเครียดโดยไม่จำเป็น” ฮุน มาเนต กล่าว
ทั้งนี้ แม้ผู้นำกัมพูชาจะไม่ได้ระบุชื่อใครก็ตาม แต่คำพูดนี้ของเขาเกิดขึ้นหลังจาก สม รังสี และผู้สนับสนุนของเขาพยายามยุยงปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย โดยหยิบยกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเกาะกูด ตาเมือนธม และพื้นที่อื่นๆ ขึ้นมา
ฮุน มาเนต กล่าวถึงข้อเท็จจริงว่าเมื่อความขัดแย้งปะทุขึ้นที่ปราสาทพระวิหารในปี 2551 กลุ่มฝ่ายค้านยังคงอยู่ในสภาตามปกติ ยังคงได้รับเงินเดือนจากรัฐสภา และไม่ทำอะไรเพื่อให้กำลังใจหรือสนับสนุนกองทัพกัมพูชาเลย ขณะเดียวกัน ประชาชนจากทุกสาขาอาชีพได้บริจาคเงินของตนเพื่อสนับสนุนและสร้างขวัญกำลังใจให้ทหารที่ปกป้องดินแดนของประเทศ
กลุ่มฝ่ายค้านเหล่านี้ไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการมีส่วนร่วมสนับสนุน แต่ยังทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจในหมู่ชาวกัมพูชา โดยระบุว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงสงครามจัดฉาก
ฮุน มาเนต ย้ำว่าข้อพิพาทชายแดนไม่ควรแก้ไขด้วยกำลังทหาร เพราะจะทำให้เกิดความสูญเสียต่อทั้งสองฝ่าย และยังเน้นย้ำว่าการเจรจาทางเทคนิคและโดยสันติ เช่นที่รัฐบาลได้ดำเนินการในอดีตเป็นวิธีที่ได้ผลที่สุดเพื่อสันติภาพที่ยั่งยืน.