ทหารพม่าล็อกเป้าจับกุมชาวยะไข่พลัดถิ่นจากการสู้รบ ขณะเดินทางกลับรัฐ

MGR ออนไลน์ - ในช่วงเวลากว่า 1 ปีของการสู้รบ กองทัพอาระกัน (AA) ของพม่าสามารถเข้ายึดเมืองต่างๆ ของรัฐยะไข่ได้ 14 เมือง จากทั้งหมด 17 เมือง โดยเอาชนะกองทัพในการสู้รบได้ครั้งแล้วครั้งเล่าจากการรุกคืบที่น่าตกตะลึง

ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในรัฐทางตะวันตกแห่งนี้ ประชาชนที่พลัดถิ่นจากความขัดแย้งได้เริ่มเดินทางกลับบ้าน พร้อมกับความเชื่อที่ว่ากองทัพอาระกันจะคุ้มครองพวกเขาจากกองทัพที่เข้ายึดอำนาจในเดือนก.พ. 2564

แต่เหตุการณ์การเดินทางกลับรัฐ กลับไม่ราบรื่นเช่นที่คาดหวัง โดยเมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา ชาวรัฐยะไข่ 12 คน ที่พลัดถิ่นจากเมืองสิตตะเวและเมืองกวา ได้พยายามเดินทางข้ามเทือกเขาโยมาอย่างลับๆ ด้วยรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากเมืองทะบอง ในภูมิภาคอิรวดี ที่อยู่ติดกัน ซึ่งพวกเขาใช้พักหลบภัยในช่วงที่เกิดการสู้รบ

ผู้พลัดถิ่นกลุ่มนี้ที่รวมถึงเด็กอายุ 1 ขวบ หวังว่าจะสามารถหลบเลี่ยงการตรวจสอบระหว่างการเดินทางได้ แต่พวกเขากลับถูกกองกำลังร่วมของรัฐบาลทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสกัดที่ค่ายตัดไม้ใกล้หมู่บ้านมายานจอ และถูกตรวจสอบอย่างน่าสงสัย ชาวเมืองทะบอง กล่าว

“ชาวรัฐยะไข่ทั้งหมดถูกจับกุมตัว พวกเขาถูกนำตัวขึ้นรถไปพร้อมกับถูกมัดมือไว้ข้าง” ชาวเมืองทะบองที่ขอไม่เปิดเผยชื่อเนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยกล่าว

ชาวเมืองกล่าวว่านอกจากคน 12 คนดังกล่าวแล้ว กองกำลังทหารยังจับตัวคนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง 4 คน จากเมืองทะบอง ที่ตกลงจะพาชาวยะไข่เหล่านั้นข้ามเขตแดน

หลังจากถูกจับกุมตัว มีชาวรัฐยะไข่อย่างน้อย 1 คน สามารถหลบหนีออกจากรถที่พวกเขานั่งได้ ส่วนอีก 11 คน ยังถูกควบคุมตัว และมีรายงานว่าอยู่ที่สถานีตำรวจในต.เย่จี อิรวดี

สำนักข่าววิทยุเอเชียเสรีได้พูดคุยกับสมาชิกครอบครัวของผู้พลัดถิ่นจากเมืองตานต่วยและกวา ที่พวกเขาพยายามเดินทางกลับบ้านหลังจากหลบภัยอยู่ในเย่จี ทะบอง และโจนบยอ ของภูมิภาคอิรวดี

พวกเขากล่าวว่าญาติของพวกเขาได้จ่ายเงินราว 350,000-400,000 จ๊าตต่อคน ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากสำหรับชาวพม่า และบางคนหลบหนีออกจากบ้านโดยมีเพียงแค่เสื้อผ้าติดตัวเท่านั้น เพื่อเช่ามอเตอร์ไซค์รับจ้างเดินทางผ่านถนนในป่าเพื่อหลบด่านตำรวจของรัฐบาลทหาร

กองกำลังของรัฐบาลทหารทราบเรื่องการหลบเลี่ยงนี้ และเริ่มจับกุมผู้พลัดถิ่นภายในประเทศที่ต้องการเดินทางกลับรัฐที่เป็นบ้านของพวกเขา

ตั้งแต่เดือนก.พ. จนถึงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมี.ค. มีผู้พลัดถิ่นภายในประเทศอย่างน้อย 26 คน ถูกจับใกล้เชิงเขายะไข่โยมา ขณะเดินทางกลับบ้านจากเย่จี และโจนบยอ

“กองกำลังของรัฐได้จับกุมพวกเขาระหว่างที่พวกเขาเดินทางกลับบ้าน กลุ่มผู้พลัดถิ่น 20 คนกลุ่มหนึ่ง และ 6 คนอีกกลุ่มหนึ่ง ถูกจับตัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา” แหล่งข่าวที่ปฏิเสธจะเปิดเผยชื่อ กล่าว และเสริมว่าผู้พลัดถิ่นที่ถูกจับยังรวมถึงเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี และผู้ใหญ่ในวัย 50

ผู้พลัดถิ่นจากรัฐยะไข่ที่อาศัยอยู่ในเย่จี กล่าวว่ามีผู้คนเกือบ 100 คน ถูกควบคุมตัวโดยตำรวจเย่จี และงาท้ายชอง ขณะพยายามเดินทางกลับบ้านในรัฐยะไข่ 

“ผู้พลัดถิ่นที่ถูกจับ ถูกควบคุมตัวอยู่ที่บริเวณสถานีตำรวจ พวกเขาต้องทำอาหารกินเอง แต่ไม่ได้ถูกตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ถูกควบคุมตัวในสภาพแออัด”

หลังจากสูญเสียการควบคุมเมืองในรัฐยะไข่มากกว่าครึ่งหนึ่ง รัฐบาลทหารได้ออกคำสั่งห้ามขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์อาหารไปยังพื้นที่ดังกล่าว เพื่อหยุดการส่งเสบียงให้กับกองทัพอาระกัน

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าคนที่ถูกจับกุมขณะพยายามเดินทางกลับรัฐยะไข่บางคนถูกตั้งข้อหาภายใต้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายของพม่า โดยถูกกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้องกับกองทัพอาระกัน นอกจากนี้ แหล่งข่าวบอกกับสำนักข่าววิทยุเอเชียเสรีว่า พวกเขาเผชิญกับข้อหาละเมิดคำสั่งห้ามขนส่งอาหารเข้าสู่รัฐยะไข่

ประชาชนประมาณ 500,000 คน ในรัฐยะไข่ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นจากการสู้รบระหว่างกองกำลังรัฐบาลทหารและกองทัพอาระกัน นับตั้งแต่เริ่มมีการต่อสู้ และเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ระบุว่าคนเหล่านี้กำลังเผชิญกับความยากลำบากอย่างหนักในสถานที่ที่พวกเขาใช้หลบภัย รวมทั้งขาดการเข้าถึงอาหารและยา.