xs
xsm
sm
md
lg

การส่งออกเวียดนามไปสหรัฐฯ คิดเป็น 30% ของจีดีพี สูงสุดในบรรดาคู่ค้าวอชิงตัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์​ - การส่งออกสินค้าของเวียดนามไปยังสหรัฐฯ คิดเป็น 30% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในปีที่ผ่านมา โดยมีสัดส่วนสูงสุดในบรรดาคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ จากการตรวจสอบข้อมูลของรอยเตอร์ ที่ทำให้เวียดนามนั้นมีความเสี่ยงสูงต่อการถูกขึ้นภาษี

ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้มีการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นหลังจากรัฐบาลทรัมป์ชุดแรกเริ่มทำสงครามการค้ากับปักกิ่งในปี 2561 เมื่อบริษัทข้ามชาติย้ายโรงงานจากจีนไปยังเพื่อนบ้านทางใต้เพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ

เวียดนามเป็นที่ตั้งของโรงงานของบริษัท Samsung Electronics ของเกาหลีใต้ และ Foxconn ผู้ผลิตตามสัญญาจ้างของไต้หวัน Apple Intel และบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านรองเท้าและเครื่องแต่งกาย Nike เป็นหนึ่งในบริษัทของสหรัฐฯ ที่ทุ่มเงินในเวียดนามเพื่อเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าที่มักส่งออกไปยังสหรัฐฯ

กระแสเงินลงทุนด้านการผลิตจำนวนมหาศาลได้ทำให้ประเทศที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์กลายเป็นศูนย์กลางสำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลก และช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับสหรัฐฯ ปัจจุบัน เวียดนามส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ 29% ตามข้อมูลศุลกากรของเวียดนาม

เมื่อปีที่ผ่านมา เวียดนามกลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 6 ไปยังสหรัฐฯ ถัดจากเม็กซิโก จีน แคนาดา เยอรมนี และญี่ปุ่น โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าอยู่ที่ 142,400 ล้านดอลลาร์ ข้อมูลสถิติการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ของสหประชาชาติระบุ

จากการประมาณการของ IMF การส่งออกไปยังสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้วคิดเป็นประมาณ 30% ของจีดีพีของเวียดนามที่ 468,000 ล้านดอลลาร์ ที่ถือเป็นสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดสำหรับคู่ค้าของสหรัฐฯ ทั้งหมด

มีเพียงเม็กซิโกเท่านั้นที่กำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากทรัมป์อย่างชัดเจนด้วยภาษีนำเข้า 25% ที่การส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ มากกว่าเวียดนามถึง 3 เท่า โดยมูลค่าการค้าทั้งหมดคิดเป็น 27.6% ของจีดีพี

ส่วนการส่งออกของจีนไปยังสหรัฐฯ มีมูลค่าที่ 2.5% ของจีดีพี และญี่ปุ่น 3.7%

ความเสี่ยงของเวียดนามมาจากความไม่สมดุลทางการค้าขนาดใหญ่ที่อาจทำให้เวียดนามเด่นชัดขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ กำลังศึกษาเกี่ยวกับภาษีศุลกากรตอบโต้ ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งให้เตรียมการภายในเดือน เม.ย.

การส่งออกที่เติบโตของเวียดนาม พร้อมด้วยการนำเข้าอย่างจำกัดจากสหรัฐฯ ส่งผลให้เวียดนามมีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ มากเป็นอันดับ 4 ในปีที่แล้ว ต่ำกว่าจีน สหภาพยุโรป และเม็กซิโก เท่านั้น ข้อมูลการค้าของสหรัฐฯ ระบุ.
กำลังโหลดความคิดเห็น